นี่คืองานกำกับเรื่องที่ 2 ของเฉินหลง (Jackie Chan) ต่อจากไอ้หนุ่มหมัดฮา (The Fearless Hyena) และยังถือเป็นการร่วมงานกับ Golden Harvest เป็นครั้งแรกด้วยครับ
เฮียเฉินรับบทเป็นอาหลง ศิษย์ของอาจารย์เถียน (เทียนเฟิง, Tien Feng) แห่งค่ายมวยเจิ้นฟง ที่เรื่องมันมาเกิดเพราะอาซิง (เหวยไป่, Wei Pai) ศิษย์พี่ของอาหลงได้กระทำในสิ่งผิดจนอาจารย์ไล่ออกจากค่ายไป อาหลงเลยตั้งใจจะไปตามศิษย์พี่กลับมา แต่อาซิงก็ยังทำผิดซ้ำโดยการไปช่วยชิงตัวนักโทษ (Hwang In Shik) แล้วก็ทำให้อาหลงซวย โดนหางเลขตกเป็นเป้าการจับกุมของทางการ อาหลงเลยต้องเคลียร์ทุกอย่างทั้งปราบคนร้าย และพาศิษย์พี่กลับมาให้ได้
ร่วมด้วย ฟ่านเหมยเซิง (Fan Mei Sheng) ในบทอาเปียว ศิษย์เอกค่ายมวยอี้ คู่แข่งของค่ายเจิ้นฟง, ซื่อเจี่ยน (Shih Kien) เป็นมือปราบเสือที่มีเรื่องวุ่นวายอีรุงตุงนังกับอาหลงอยู่พักใหญ่ๆ, หยวนเปียว (Yuen Biao) เป็นลูกจอมยวนของมือปราบเสือ, หลี่ลี่ลี่ (Lily Li) เป็นเจ๊ซิ่ว ลูกอีกคนของมือปราบเสือ, Fung Fung เป็นตาลุงตัวแสบที่หลอกให้อาซิงหลงผิด, เฝิงเค่ออัน (Fung Hark On) และ หลี่ไห่เซิง (Lee Hoi Sang) เป็นลูกน้องของตัวร้ายหลัก, Cheung Kam และ Tai Bo รับบทลูกศิษย์ในค่ายเจิ้นฟง และ Yue Tau Wan เป็นมือปราบตาเหล่ที่พยายามจับอาหลงเพราะเข้าใจผิด
หนังถือว่าสนุกอยู่ครับ ถ้าจะดูเอามันส์ล่ะได้เลย เพราะเฮ๊ยเฉินก็ปล่อยของใช้ได้อยู่ ไม่ว่าจะการเชิดสิงโตช่วงต้นเรื่อง (ที่ว่ากันว่าได้ หลิวเจียหยง มาแสดงแทนในบางช่วง) ต่อด้วยฉากสู้กันด้วยพัดที่ออกมามันส์และสร้างสรรค์เอาเรื่อง ซึ่งฉากที่ว่านี่กว่าจะเสร็จออกมาแบบที่เราเห็นนั้น ก็ถ่ายกันไปถึง 329 เทคเลยทีเดียว
จากนั้นก็มีบู๊ประปรายก่อนจะมามันส์อีกรอบตอนเฮียเฉินฟัดกับหยวนเปียว แล้วก็มามันส์ยาวๆ อีกทีตอนเฮียเฉินปะทะเฝิงเค่ออันและหลี่ไห่เซิง แล้วก็แน่นอนครับว่าไฮไลท์สุดๆ ต้องยกให้ตอนเฮียเฉินปะทะหัวหน้าใหญ่ ฉากนี้บู๊ยาวบู๊นาน แต่ไม่น่าเบื่อเลยครับ หลายกระบวนท่าเลยที่มาพร้อมความสะใจ และบางช่วงนี่ก็ทำเอาเจ็บแทนเฮียเฉินเลยโดยเฉพาะตอนที่โดนจับบิดมือบิดแขนน่ะครับ คือต้องยอมรับว่าเฮียเฉินแกทุ่มเทจริงๆ
หนังให้พื้นที่กับฉากบู๊ประมาณครึ่งหนึ่งครับ ส่วนอีกครั้งก็ให้พื้นที่กับความฮาซึ่งก็ใช้ได้อยู่ โดยเฉพาะช่วงที่เฮียเฉินไปข้องเกี่ยวกับมือปราบเสือและครอบครัวนี่ แม้หลายมุกจะดูซ้ำๆ หรือถ้าดูจากสายตาคนสมัยนี้ก็อาจมองว่ามันเก่า แต่เฮียเฉินก็สามารถใส่ลงมาสร้างความสนุกสนานให้กับหนังอย่างได้ผล
แต่ฉากที่ผมสัมผัสได้ว่ามีความหมายมากกว่าที่เห็นก็คงเป็นฉากที่อาจารย์เถียนโกรธเหล่าลูกศิษย์จนเอาไม้ฟาดตีลูกศิษย์ไปเรื่อย จนอาหลงซึ่งทนไม่ได้ก็ออกมาระบายความในใจต่ออาจารย์จนหมดสิ้น ส่วนตัวผมรู้สึกว่าฉากนี้เป็นเหมือนเฮียเฉินแกอยากสื่อน่ะครับ ว่าการที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งชุบเลี้ยง ดูแล หรือให้โอกาสเด็กสักคนนั้น ต่อให้ผู้ใหญ่จะมีบุญคุณแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าผู้ใหญ่จะทำอะไรกับเด็กก็ได้ ใช่ว่าทุกอย่างที่ผู้ใหญ่ทำนั้นจะถูกต้องเสมอไป หรือการจะเอาความไม่พอใจมาระบายลงที่เด็กนั้นก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่น่ารักเลย
ส่วนตัวผมมองว่าอะไรเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่อยู่ในใจเฮียเฉินน่ะครับ เพราะในช่วงเวลานั้นระหว่างเขากับอดีตผู้ใหญ่ที่เคยร่วมงานกันมาอย่างหลอเหว่ยก็มีปัญหาต่อกันอยู่ไม่น้อย และจริงๆ ในช่วงที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เฮียเฉินเคยโดนแก๊งมาเฟียลักพาตัวไป ซึ่งว่ากันว่าแก๊งนั้นก็มีความเกี่ยวข้องกับหลอเหว่ยนั่นแหละ ส่วนที่ลักพาเฮียเฉินไปนั้นก็เพื่อบังคับให้เฮียยอมเล่นหนังให้
ทีนี้พอเกิดเรื่องขึ้นมา Willie Chan ผู้จัดการของเฮียเฉินก็รีบแจ้งเรื่องไปยัง Golden Harvest ซึ่งสุดท้ายก็นำพาเฮียเฉินกลับออกมาได้ แต่กระนั้นเรื่องก็เหมือนยังไม่จบ ทำให้พอถ่ายทำหนังเสร็จทาง Golden Harvest ก็รีบพาตัวเฮียเฉินหลบออกจากฮ่องกง นั่นจึงส่งผลให้เฮียเฉินไม่ได้มาปรากฏตัวในรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องนี้ แล้วเฮียเฉินก็ไปทำหนังที่อเมริกา 2 เรื่องซึ่งก็คือ Battle Creek Brawl และ The Cannonball Run โดยระหว่างนั้นทาง Golden Harvest ก็พยายามเจรจาเคลียร์กับแก๊งที่ว่า (ซึ่งจริงๆ ก็คือเคลียร์กับ หลอเหว่ย นั่นแหละ) จนในที่สุดพอบรรลุข้อตกลง แล้วเฮียเฉินถึงได้กลับมา
ว่ากันว่าตอนที่หนังเรื่องนี้ทำเงินทำลายสถิติ คือทำไปราว 11 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งถือเป็นหนังฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำเงินได้เกิน 10 ล้าน และขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับ 1 ในฮ่องกงปีนั้น เฮียเฉินของเราก็ได้ทราบข่าวทั้งหมดจากทางโทรเลขครับ
เรียกได้ว่ากว่าเฮียเฉินจะประสบความสำเร็จได้นั้น เขาต้องผ่านคมหอกคมดาบมาเยอะจริงๆ
เอาเป็นว่าหนังถือว่าสนุกอยู่ครับ มันอาจไม่ได้เด็ดสุดๆ เท่าหนังในยุคต่อมาของเขาซึ่งจะพีคยิ่งกว่านี้อีก แต่ก็อยู่ในข่ายหนังน่าดูของเฮียเขา อ้อ ขอแถมอีกอย่างนะครับ กล่าวกันว่าหนังเรื่องนี้ตอนฉบับตัดต่อแรกนั้น ยาวประมาณ 3 ชั่วโมงเลยล่ะครับ ซึ่งก็แน่นอนว่า Golden Harvest ไม่ยอมให้หนังยาวขนาดนั้นนั้น เลยมีการตัด ตัด และตัดจนออกมาเป็นอย่างที่เราเห็นครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)












