เฮนรี่ คอปเปอร์ (Sam Claflin) นักเขียนอังกฤษที่แต่งนิยายรักขึ้นมาเรื่องหนึ่ง มันขายแทบไม่ได้เลยในอังกฤษแต่ดันติดชาร์ตอันดับ 1 ที่เม็กซิโกครับ ทางสำนักพิมพ์เลยส่งเฮนรี่ไปร่วมงานโปรโมตหนังสือ ก่อนที่เขาจะพบว่านิยายของเขาในเวอร์ชั่นเม็กซิโกน่ะ กลายเป็นนิยายประโลมโลกสุดร้อนแรงที่นักแปลสาว มาเรีย รอดริเกซ (Verónica Echegui) เพิ่มฉากแซ่บๆ เข้าไปอีกเพียบ
แน่นอนว่าเฮนรี่ไม่พอใจ แต่ก็ต้องเลยตามเลยครับ เขาเลยต้องออกทัวร์แจกลายเซ็นต์กับเธอ แล้วก็ตามสูตรนั่นแหละ หัวใจของพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มสะกิดกันจนได้
พล็อตผมว่าน่าสนใจนะ และหนังรอมคอมแบบนี้สิ่งสำคัญเลยคือการทำให้คนดูได้เห็นว่าความรักของพวกเขาก่อตัวขึ้นมายังไง ซึ่งประเด็นหลักๆ ของเรื่องนี่ผมว่าก็เอื้อให้พระเอกนางเอกมีเรื่องให้คุยให้ถกให้สานสัมพันธ์กันเยอะอยู่ แต่ผลที่ได้ออกมานั้นยังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ครับ คือหนังทำให้เราเชื่อนะว่าพระเอกนางเอกมีอะไรๆ หลายอย่างต่างกัน จนพอถึงซีนสำคัญที่พวกเขาทะเลาะกันเพราะรูปภาพรูปหนึ่งนี่ ผมเชื่อนะว่าเพียงรูปนั้นรูปเดียวก็สั่นคลอดความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ เพราะในใจมันรู้สึกน่ะครับว่าพวกเขายังไม่ผูกพันกันถึงขนาด – หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หนังยังไม่ทำให้เรารู้สึกว่าพวกเขาชอบกันขนาดนั้น
ผมว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดารา เพราะดาราก็เล่นกันโอเค ทั้ง Claflin และ Echegui แต่ผมว่ามันพร่องตรงบทที่ยังวาดภาพสายใยรักที่ค่อยๆ ก่อตัวระหว่างพวกเขาทั้งสองได้ยังไม่ถึงระดับ จริงๆ หนังมีหลายหัวโค้งเลยล่ะครับที่สามารถทำให้พวกเขาดูเข้ากันมากกว่านี้ได้ แต่นี่เหมือนหนังนำเสนอไปเรื่อยๆ เล่าไปเรื่อยๆ ก่อนจะกำหนดให้พวกเขาทำอะไรต่อมิอะไรกันตามสูตร ว่าตรงๆ คือหนังก็ตามตำรานั่นแหละครับ เพียงแต่ตรงรายละเอียดตรงบทมันยังไม่กลมกล่อม ยังไม่ทำให้เราคล้อยตามได้ขนาดนั้น
หรือที่ค่อนข้างจะขัดใจผมหน่อยก็คงเป็นตอนไคลแม็กซ์น่ะครับ ในฉากที่เฮนรี่, มาเรีย และแอนโทนิโอ้ (Horacio Garcia Rojas) สามีเก่าของมาเรียมาเผชิญหน้ากัน ฉากนี้ยอมรับเลยว่าสิ่งที่ผมอยากเห็นคือเฮนรี่ หรือมาเรีย หรือทั้งคู่เลยก็ได้ ออกมายืนหยัดเพื่อปกป้องอีกฝ่าย คือไหนๆ จะมาเวย์นี้แล้ว (เวย์ละครน้ำเน่านิดๆ หรือเน้นให้คนดูเฮหน่อยๆ) ก็ให้มาเรียก็ได้ ฉะสามีเอาให้พูดไม่ออกไปเลย
คือเธอไม่จำเป็นต้องหยาบคายนะครับ เพราะหนังก็บอกอยู่ว่าเธอคือนักเขียนคนหนึ่งอยู่แล้ว ดังนั้นการเรียบเรียงข้อมูลสรุปให้ผู้คนตรงนั้นได้เข้าใจ ได้เห็นภาพว่าสามีคนนี้แย่แค่ไหนโดยไม่ต้องหยาบคายหรือไม่ต้องฟูมฟายดราม่ามากน่ะ เธอก็น่าจะทำได้ ทั้งเพื่อปกป้องตนเองและปกป้องเฮนรี่ด้วย – เพราะเฮนรี่ก็โดนด่าปาวๆ ว่าแย่งเมียชาวบ้าน ทั้งที่จริงๆ แอนโทนิโอ้น่ะเป็นยังไงคนดูก็เห็นอยู่
ถ้าให้สรุปก็คือ หนังมีสารตั้งต้นที่เข้าท่าครับ เอาแค่ประเด็นที่มาเรียแปลงานของเฮนรี่ให้ร้อนแรงเกินเบอร์ (จริงๆ คือแต่งเรื่องให้ใหม่เลย) ก็เอามาเล่นให้ฮาได้หลายดอกแล้ว แต่หนังก็ไปไม่ถึง / จะเวย์รอมคอมแบบน่ารักๆ หนังก็ไปไม่ถึง / หรือจะเวย์แบบให้หนุ่มอังกฤษเหนียมๆ มาเจอกับสาวเม็กซิกันตรงๆ แฟรงค์ๆ แล้วค่อยๆ จูนเข้าหากัน นี่ก็ไปไม่ถึง / หรือจะเวย์แซ่บๆ แรงๆ จัดจ้านแบบเม็กซิกันไปเลย นี่ก็ไปไม่ถึง หนังเลยอยู่ในระดับกลางๆ คือไม่ได้แย่ แต่ก็น่าจะอร่อยออกรสกว่านี้ครับ
อีกส่วนที่แอบเสียดายคือบทสมทบไม่ว่าจะแม็กซ์ (Fernando Becerril) ปู่ของมาเรีย หรือดิเอโก้ (Ruy Gaytan) ลูกชายของมาเรีย ทั้งที่ 2 คนนี้เดินทางไปไหนต่อไหนด้วยเกือบตลอด แต่บทน้อยกว่าที่คิดครับ จะมีก็แต่ Horacio Villalobos ในบทเจ๊เปโดรที่พอจะเด่นเป็นพักๆ – ส่วนตัวผมชอบเจ๊คนนี้น่ะครับ นางน่ารักดี และยังตรงไปตรงมาแบบสร้างสรรค์ด้วย
แต่สิ่งที่ช็อคมากสำหรับผมคือ Verónica Echegui นางเอกของเรื่องเธอไม่อยู่แล้วนะครับ เธอจากโลกนี้ไปเมื่อ 24 สิงหาคม ปี 2025 ก็คือราวๆ หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้าทื่ผมจะเอาหนังเรื่องนี้มาดูพอดี ก็ขอไว้อาลัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ก็ประมาณนี้ครับ คือถ้าใครชอบหนังรอมคอมจะลองดูก็ได้แหละ เพราะหนังมันก็ยังพอเพลิน เพียงแต่ความกลมกล่อมยังไม่ถึงระดับเท่านั้น
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:Comedy, Movie Reviews, Romance, Romance Romance, Romantic Comedy












