Action

Zathura: A Space Adventure (2005) ซาทูร่า เกมทะลุมิติจักรวาล

และนี่ก็คือหนังภาคแยกของ Jumanji ครับ ว่าด้วยการผจญภัยในเกมกระดานเหมือนกัน โดยจะต่างจาก Jumanji ตรงที่อันนั้นจะเป็นการผจญภัยกับสิงสาราสัตว์ ส่วน Zathura จะเป็นเกมเกี่ยวกับอวกาศครับ

และ 2 ผู้โชคดีที่ต้องมาเล่นเกมนี้ก็คือ วอลเตอร์ (Josh Hutcherson) และ แดนนี่ (Jonah Bobo) ก็ตามสูตรล่ะครับ ตอนแรกที่เล่นกันก็นึกว่ามันเป็นแค่เกมกระดานธรรมดาๆ กว่าจะรู้ว่าเกมนี้เล่นจริงเจ็บจริงเจอจริงก็ช้าไปแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ต้องเล่นให้จบครับ ไม่งั้นมีอันต้องติดอยู่กลางอวกาศไปอีกนานเลย

อย่างแรกเลยที่รู้สึกคือ Hutcherson และ Bobo เล่นได้ดีครับ คือดูแล้วเชื่อว่าพวกเขาเป็นพี่น้องคู่กัดกันจริงๆ จนยอมรับเลยว่าตอนต้นๆ ก็แอบรำคาญในความวุ่นวายเยอะแยะของพี่น้องคู่นี้เหมือนกัน – ก็น่าจะแปลว่าพวกเขาเล่นได้ถึงน่ะนะครับ ถึงทำให้รู้สึกรำคาญตามได้ขนาดนี้ 555

ตอนต้นๆ หนังก็ปูพื้นไป ความสนุกยังไม่มากครับ ต้องรอจนเกมเริ่มความสนุกถึงจะเริ่มไหลมา แต่ถ้าให้เทียบกันแล้วผมออกจะชอบ JumanJi มากกว่าครับ อันนั้นมันคล่องคอ ครบเครื่องครบรส และลูกเล่นดูจะเยอะกว่า แต่กระนั้นเรื่องนี้ก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ ที่แน่ๆ เลยคืองานสร้างจัดว่าดี พวกงานสร้างและเอฟเฟคท์นี่นับว่าเนี๊ยบสมทุน $65 ล้านอยู่เหมือนกัน และผู้กำกับ Jon Favreau ก็ตั้งใจทำหนังออกมาโดยไม่เน้น CG ครับ แต่จะเน้นการสร้างของจริงมาใช้ในหนัง ซึ่งก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หลายอย่างมันดูจริงในระดับหนึ่ง

และหนังก็ยังคงสิ่งที่ถือว่าเป็นหัวใจของหนังชุดนี้มาตั้งแต่ Jumanji ต้นฉบับ นั่นคือเรื่องของสายสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว โดยจะเน้นไปที่เรื่องของพี่น้องครับ ซึ่งก็ทำได้โอเคอยู่ โดยเฉพาะจุดเฉลยตอนท้ายที่ก็สร้างความอบอุ่นให้หนังได้ไม่น้อยเหมือนกัน

ว่ากันว่าตอนแรกนั้นหนังเรื่องนี้จะเป็นภาคต่อโดยตรงของ Jumanji เลย แล้วก็จะให้ Ken Ralston มือเอฟเฟคท์จาก Jumanji และหนังดังๆ อีกหลายเรื่องให้มากำกับ แต่พอ Favreau ก้าวเข้ามา เขาก็ประกาศเลยครับว่านี่จะไม่ใช่ภาคต่อของ Jumanji เหตุผลก็เพราะเขานั้นไม่ค่อยอินกับ Jumanji สักเท่าไร

แต่ถึงจะไม่ใช่ภาคต่อก็เถอะ ทว่ากลิ่นอายและองค์ประกอบหลายอย่างก็ยังทำให้นึกถึง Jumanji อยู่ดีน่ะนะครับ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะในฉบับหนังสือทั้ง Jumanji และ Zathura ก็อยู่ในจักรวาลเดียวกัน เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์โดย Chris Van Allsburg เหมือนกัน ดังนั้นยังไงมันก็ย่อมต้องมีความเหมือนกันอยู่ไม่มากก็น้อย

เกร็ดหนึ่งที่อยากนำมาฝากก็คือ ในเรื่องนี้ Kristen Stewart แสดงเป็นพี่สาวของ 2 หนุ่มในเรื่อง แล้วมันก็จะมีฉากที่เธอถูกแช่แข็ง ซึ่งตัวเธอแบบแช่แข็งนั้นก็เป็นหุ่นที่ถูกสร้างขึ้นครับ ซึ่งว่ากันว่า Stewart รู้สึกขนลุกเลยครับยามได้เห็นหุ่นรูปเธอโดนแช่แข็งแบบนั้น และสิ่งที่ทำให้เธอขนลุกหนักขึ้นไปอีกก็คือ ในเวลาต่อมามีข่าวว่ามีผู้ชายหลายคนติดต่อสตูดิโอมาเพื่อขอซื้อหุ่นตัวนั้น ก็เล่นเอา Stewart รู้สึกสยองไปเลยล่ะครับตอนรู้เรื่องเข้าน่ะ

ก็ถือเป็นหนังผจญภัย+แฟนตาซี+ไซไฟที่ดูได้เพลินๆ อีกเรื่องครับ แต่ก็แอบเห็นใจเหมือนกันที่หนังจัดว่าขาดทุนตอนออกฉาย หนังทำเงินทั่วโลกไปเพียง $65 ล้าน โดยที่หนังลงทุนไป $65 ล้าน ตัวเลขอาจดูเท่ากันน่ะนะครับ เหมือนจะเท่าทุน แต่ต้องอย่าลืมว่ารายได้ของหนังน่ะไม่ได้เข้ากระเป๋าผู้สร้างทั้งหมด แต่ต้องแบ่งกับโรงฉายประมาณคนละครึ่ง ดังนั้นรายได้สุทธิที่เข้าสตูดิโอผู้สร้างก็อาจจะแค่ $38 ล้านเท่านั้น ก็เอาเป็นว่าหนังไม่ประสบความสำเร็จและเข้าเนื้อไปพอสมควรครับ

กล่าวกันเหตุผลหนึ่งที่หนังทำเงินได้น้อย ก็เพราะหนึ่งสัปดาห์ก่อนหนังเปิดตัว ก็มีหนังครอบครัวอย่าง Chicken Little เข้าฉาย และหนึ่งสัปดาห์ถัดจากหนังเปิดตัว Harry Potter and the Goblet of Fire ก็เข้าฉายพอดี

ก็จัดว่าดูได้ครับ แน่นอนว่าผมชอบ Jumanji มากกว่า แต่ถ้าไม่คิดมาก ดูเอาสนุกเอาเพลินเป็นสรณะ ก็ถือว่าใช้ได้อยู่ครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)