Biography

Gifted Hands: The Ben Carson Story (2009) สองมือแห่งศรัทธา ชีวิตแพทย์ผู้สร้างแรงบันดาลใจ

หนังดราม่าชั้นดีที่พี่ Cuba Gooding Jr. ฝากฝีมือไว้ครับ ในบท ดร. เบน คาร์สัน ศัลยแพทย์หนุ่มมากฝีมือทึ่กำลังจะต้องผ่าตัดแยกเด็กแฝดที่มีสมองติดกัน ซึ่งถือเป็นเคสที่ยากมากๆ และคุณหมอก็ต้องหาทางว่าจะผ่าอย่างไรให้เด็กปลอดภัย โดยระหว่างนั้นหนังก็จะเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณหมอเบนตั้งแต่ตอนเด็กให้เราได้รับรู้ไปพร้อมกัน

ถือเป็นหนังที่ครบเครื่องเลยครับ เล่าเรื่องได้ดี ดาราแสดงดี มีความน่าติดตาม ไหนจะมีความลุ้นอีก เพราะเราก็ต้องมาลุ้นกันว่าคุณหมอเบนจะสามารถผ่าตัดเด็กได้ไหม และจะใช้วิธีไหนในการผ่าตัด แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่หนังมีให้ก็คือเรื่องราวดีๆ ที่ให้พลังบวกกับผู้ชมครับ ดังนั้นใครใคร่ดูหนังประเภทสร้างแรงบันดาลใจ เรื่องนี้ก็จัดว่าตอบโจทย์นั้นแบบเป๊ะๆ เลย

แต่ก็ต้องบอกก่อนน่ะนะครับว่าการเล่าเรื่องมันอาจไม่ได้บิ้วให้บีบเค้นอารมณ์อะไรขนาดนั้น ไม่ถึงขั้นหนังฟากตะวันออกของเราที่จะเค้นน้ำตาได้คล่องกว่า หรือฉากผ่าตัดที่ทำได้หวือหวาน่าลุ้นกว่า (แบบพวก Iryu: Team Medical Dragon หรือ Doctor X) แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าโอเคมากแล้วครับสำหรับหนังฝรั่งน่ะ

ผู้กำกับคือ Thomas Carter ที่เน้นไปทำทีวีซีรี่ส์เสียมาก แต่งานหนังโรงเขาก็เคยทำไว้ครับ ไม่ว่าจะงานกลางๆ อย่าง Metro (Eddie Murphy), Save the Last Dance (Julia Stiles) หรือ Coach Carter (Samuel L. Jackson) ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็ต้องถือเป็นผลงานระดับหัวแถวของเขาเลยครับ ทำออกมาได้น่าติดตาม แต่ในแง่งานสร้างอาจไม่เด่นนักก็เพราะนี่เป็นหนังทีวีน่ะนะครับ แต่ในส่วนของเนื้อหาน่ะไว้ใจได้

แต่กระนั้นหนังก็ยังมีส่วนที่ไม่สุดอยู่ครับ อย่างตอนกลางๆ เรื่องที่หนังเล่าถึงชีวิตวัยเยาว์ของหมอเบน ซึ่งจะมีช่วงหนึ่งที่เขาอารมณ์ร้อนมากจนทำให้คนทั้งบ้านต้องตกใจ ตอนแรกก็นึกว่าพอหนังผูกปมนี้ขึ้นมาแล้ว ก็จะมีการคลายที่น่าสนใจ แต่กลายเป็นว่าหนังไม่ใช้เวลากับประเด็นนี้นานนักครับ เหมือนเล่าๆ แล้วพักหนึ่งก็ตัดไปเล่าอีกช่วงวัยเลย ซึ่งก็แอบเสียดายเหมือนกัน – ใจคิดว่าอาจเพราะนี่เป็นหนังทีวีน่ะครับ เวลาในการนำเสนอเลยอาจจำกัด เลยเล่าอะไรๆ ได้ไม่หมด

แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะโดยรวมหนังยังจัดว่าทำได้ดี แน่นอนว่าพลังสำคัญคือการแสดงของพี่ Cuba นี่แหละ รายนี้เล่นหนังเกรดไหนก็เล่นได้ดีเสมอ ก็มีพี่เขากับพี่ Nicolas Cage นี่แหละครับที่ผมเชียร์วันเชียร์คืน อยากให้มีโอกาสกลับมาอยู่แถวหน้ากับเขาอีกครั้ง

สรุปว่าหนังเรื่องนี้ คุ้มค่าแก่การรับชมครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)