Comedy

Happy Death Day 2 U (2019) สุขสันต์วันตาย 2U

สำหรับผม เรื่องนี้ถือเป็นภาคต่อที่เวิร์กทีเดียวครับ โดยส่วนตัวผมนี่คือชอบพอๆ กับภาคแรกเลย

เรื่องราวภาคนี้มันต่อจากภาคก่อนยังไง จริงๆ ไปดูเองน่าจะเวิร์กสุดครับ เพราะความสนุกส่วนหนึ่งของหนังมันก็อยู่ตรงที่ปมทั้งหลายที่หนังมีนั่นแหละ การไปดูเอง ไปรู้เอง ผมว่าน่าจะทำให้เราเพลินไปกับเรื่องราวได้มากขึ้น

ผมพอจะเข้าใจที่หลายๆ ท่านรู้สึกชอบภาคนี้น้อยกว่าภาคแรก หรือไม่ก็ไม่ชอบเลย เนื่องจากหนังมีความพยายามที่จะอธิบายปรากฏการณ์ในภาคแรก ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็เป็นการทำลายมนต์ขลังบางอย่างในภาคแรกลงไป ในขณะที่ผมนั้น อาจเพราะผมไม่ได้ชอบภาคแรกแบบมากมาย (คือชอบ แต่ไม่ถึงกับชอบมากๆ) ครั้นพอมาดูภาคนี้และพอได้รับรู้เนื้อเรื่อง ผมก็รู้สึกว่า Christopher Landon ที่รับหน้าที่เขียนบทภาคนี้ เขาก็มีความพยายามในการผูกเรื่องและผูกปมทั้งหลายไม่น้อย

คือผมไม่เถียงนะว่าบางอย่างก็เป็นการสานต่อปมแบบไม่เนียนเท่าไร หรือไม่ก็อาจดูขัดกับบางอย่างในภาคแรก ดังนั้นจุดสำคัญว่าท่านจะโอหรือไม่โอกับภาคนี้ก็คงเป็นว่า ท่านพอจะซื้อไอเดียในภาคนี้ไหม หรือพอจะเห็นจุดเชื่อมมากกว่าจุดโหว่ไหม ซึ่งสำหรับผมก็อยู่ในข่ายพอรับได้น่ะครับ รู้สึกว่ามันพอไปกันได้กับภาคแรก ไม่ได้นอกลู่นอกเรื่องหรือเลอะเทอะจนเกินไป

อีกอย่างที่ทำให้ผมพอจะมองข้ามจุดโหว่บางอย่างไปได้ก็คงเพราะหนังมันยังดูสนุกอยู่น่ะครับ แม้จะเอาเรื่องวนลูปมาเล่นเหมือนเดิม แต่หนังก็พยายามใส่อะไรใหม่ๆ ลงไป อย่างพวกมิติคู่ขนานอะไรเหล่านี้เป็นต้น ซึ่งก็เปิดโอกาสให้หนังได้เล่นกับอะไรใหม่ๆ ไม่ซ้ำของเดิมจนเกินไป และในแง่ความตื่นเต้นของหนังแนวเชือดก็ยังทำได้ดีอยู่ แล้วก็บวกกับอะไรฮาๆ ลงไป หนังจึงค่อนข้างเพลินสำหรับผม

และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกบวกกับหนังเรื่องนี้อย่างยิ่ง ต้องยกให้ความ Feel Good หลายๆ อย่างที่หนังใส่ลงมาครับ ไม่ว่าจะประเด็นเรื่องแม่ของทรีที่กลายมาเป็นปมสำคัญที่ซึ้งไม่ใช่น้อย หรือสายสัมพันธ์ระหว่างทรีกับลอริ (Ruby Modine) ที่มารอบนี้ก็กลายเป็นอีกแบบ ซึ่งก็สร้างอารมณ์ Feel Good ได้พอตัว ผมมองว่าจุดเวิร์กอย่างหนึ่งของภาคนี้ คือการที่หนังเลือกจะสำรวจพล็อตใหม่ที่ไม่ซ้ำทางกับคราวก่อน

และผมดีใจมากๆ ที่หนังไม่พยายามเน้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทรีกับคาร์เตอร์ (Israel Broussard) ทื่ตอนจบภาคก่อนลงเอยด้วยการที่ทั้งสองชอบกัน แต่พอมาภาคนี้ทรีก็ต้องเจอกับสถานการณ์อีกแบบ ซึ่งผมรู้สึกดีน่ะครับที่หนังไม่ให้ทรีมามัวไล่ตามคาร์เตอร์ต่อ แต่เลือกจะก้าวไปเล่นเรื่องอื่นๆ เลย – จะเรียกว่าหนังมันเข้าทางถูกใจผมหลายๆ อย่างก็คงได้น่ะครับ

ภาคนี้ Landon ก็ยังคงกำกับ ซึ่งผมว่าเขาคุมหนังได้ดีนะ อีกส่วนหนึ่งที่ผมชอบภาคนี้อาจเพราะเรื่องมันเดินเร็วขึ้น กระชับขึ้น ไวขึ้น ไม่เหมือนภาคแรกที่ตอนต้นจะค่อนข้างเครื่องร้อนช้าหน่อย แต่กับภาคนี้หนังเข้าเรื่องไว เครื่องร้อนเร็ว และร้อนต่อเนื่อง แม้จะไม่ถึงกับลงตัวไปเสียทุกอย่างก็ตาม แต่ผมว่ามันก็ยังสนุกและตอบโจทย์บันเทิงได้ดี

แต่ภาคนี้รายได้ลดลงไปครึ่งต่อครึ่งครับ คราวก่อนทำได้ระดับร้อยล้านจากทั่วโลก แต่มาคราวนี้ทำไปได้ $64 ล้าน แม้จะยังกำไรสวยๆ อยู่ก็ตาม (เพราะหนังลงทุน $9 ล้าน) แต่ผู้สร้างก็อาจมองว่าหนังมีแนวโน้มที่ความนิยมจะลดลงหากยังทำต่อ

สรุปว่าภาคนี้ก็ดูเพลินเข้าชุดกับภาคแรกครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)