หนังแนวที่ผมโปรดปรานครับ มีมาทีไรก็พร้อมดูเสมอ นั่นคือหนังที่แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของกลุ่มนักกีฬาที่สามารถยกระดับตัวเอง จากทีมที่ไม่มีอันดับใดๆ ทีมที่ใครๆ มองว่ารองบ่อน จนสามารถมาเป็นทีมที่ใครๆ พากันชื่นชม
Luke Wilson รับบท รัสตี้ รัสเซลล์ คุณครูและโค้ชทีมฟุตบอลที่สร้างให้เด็กกำพร้ากลุ่มหนึ่งกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยได้แรงสนับสนุนจากคุณหมอฮอลล์ (Martin Sheen) ที่เป็นคนขอให้รัสตี้เดินทางมา หนังก็มาตามสูตรครับ เปิดมาก็แนะนำตัวละคร และตอนต้นนี่พวกเด็กๆ ก็จะยังเล่นกีฬาไม่ค่อยเป็น ไม่ค่อยจะสามัคคีมีตีกันเป็นพักๆ หรือไม่ก็ไม่ตั้งใจเรียน แต่แล้วด้วยความทุ่มเทเอาใจใส่แบบเต็มร้อยของคุณครู จึงสามารถเปลี่ยนเด็กๆ เหล่านี้กลายมาเป็นทีมคนแกร่งที่สามารถไปแข่งกับทีมเก่งๆ ได้ รวมถึงนิสัยใจคอของแต่ละคนก็เริ่มดีขึ้น เริ่มมีมิตรไมตรีต่อกัน เริ่มหันมาคิดถึงอนาคตของตนมากขึ้น
ในฐานะที่ดูหนังแนวนี้มาเยอะ จริงๆ เรื่องนี้ก็มาในแนวเดิมๆ น่ะครับ ไม่ได้มีอะไรแหวกขนบหรือฉีกแนว แต่สำหรับผมแล้วขอแค่นี้ก็พอครับ แแบบที่มันเป็นนี่แหละ ดูแล้วอิ่มเอมอิ่มใจ ได้เห็นคุณครูผู้ใจดีคอยช่วยเหลือเด็กๆ อย่างเต็มที่ ได้เห็นเด็กๆ พัฒนาตนเอง จากเดิมที่ใช้ชีวิตไปเรื่อยไม่มีทิศทาง ก็เริ่มมีเป้าหมายและมีชีวิตที่เป็นชิ้นเป็นอัน ยอมรับครับว่าการได้เห็นภาพเหล่านี้มันทำให้รู้สึกฮึกเหิมในใจ ราวกับว่าระหว่างดูเราก็พลอยได้รับพลังบวกจากหนังแผ่ซ่านมาสู่จิตใจของเราด้วย
ดาราแต่ละรายแสดงกันได้ดีครับ รายที่น่ารักสุดผมยกให้ Sheen ที่เป็นตัวชูรสชั้นดีให้กับหนัง และอีกคนที่เล่นได้ถึงบทมากๆ ก็คือ Wayne Knight ในบท แฟรงค์ วินน์ รายนี้เป็นครูจอมเห็นแก่ตัวที่คอยแต่จะฉกฉวยประโยชน์จากเด็ก แล้วก็หาประโยชน์เข้าตัวเป็นหลัก บทนี้ยอมรับครับว่าต้อง Knight จริงๆ
ส่วน Wilson นั้นหากมองเผินๆ อาจรู้สึกว่าเขาไม่เด่นเท่าไร ซึ่งไม่ใช่แสดงไม่ดีนะครับ เพียงแต่บทของรัสตี้นั้นออกแนวคอยสนับสนุนเด็กๆ คอยอยู่เบื้องหลังและผลักดัน โดยจะไม่คอยเสนอหน้า ไม่ฉายแสงไฟเข้าตัว คือเป็นโค้ชที่เป็นโค้ชจริงๆ น่ะครับ คอยเป็นแบ็คให้ คอยเกลี่ยแสงไฟให้คนในทีม จะเรียกว่าเป็นคนประเภทปิดทองหลังพระก็คงไม่ผิดอะไร เลยทำให้ Wilson อาจดูไม่เด่นเท่าคนอื่น แต่ผมกลับมองว่าการเล่นแบบน้อยๆ แบบนี้น่ะพอเหมาะแล้วกับบทนี้
แต่รายที่บทน้อยกว่าที่คาดคือ Vinessa Shaw ในบท ฮวนนิต้า ภรรยาของครูรัสตี้ที่ตอนแรกนึกว่าจะมีส่วนในการสอนเด็กๆ มากกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าบทเธอแทบจะหายไปเลย แต่ก็พอเข้าใจน่ะครับว่าหนังคงต้องให้พื้นที่กับเรื่องราวของครูรัสตี้และเด็กๆ เป็นหลัก เรื่องของเธอเลยไม่ค่อยมีพื้นที่ เช่นเดียวกับ Treat Williams ผู้ล่วงลับในบทอามอน คาร์เตอร์ รายนี้ก็นึกว่าจะมีบทเยอะ แต่กลายเป็นบทสมทบมากกว่า ในขณะที่ Robert Duvall ก็มาฉากเดียวครับ แต่บารมีในฉากนั้นก็ถือว่าพอได้อยู่
ก็ถือเป็นหนังแนวกีฬาที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีครับ หนังแนวนี้นี่ผมแนะนำให้ท่านดูยามที่รู้สึกเหนื่อยล้าท้อแท้นะ ยามที่หมดแรงจนรู้สึกไม่อยากทำอะไร ผมอยากให้ท่านได้ดูหนังแนวนี้ครับ มันอาจช่วยอัดฉีดพลังใจให้กับท่านได้ และสำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าหนังทำได้ดีครับ ดูสนุก น่าติดตาม ตอนต้นๆ ช่วงปูพื้นอาจเรื่อยๆ สักหน่อย แต่พอดูไปๆ มันก็จะเริ่มเข้าที่เอง
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Drama, History, Inspirational Movies, Sport