Action

Sisu (2022) สิสู้…เฒ่ามหากาฬ

Untitled07432

เวลาเลือกดูหนังได้ถูกเรื่องนี่มันจะกระหยิ่มยิ้มย่องในใจครับ คือมันจะไม่ใช่แค่สนุกกับหนังเท่านั้น แต่มันจะรู้สึกดีประมาณว่าเวลาแต่ละนาทีที่เรากำลังใช้ไปนี่มันคุ้มค่าซะนี่กระไร

เรื่องของผู้เฒ่าคนหนึ่ง (Jorma Tommila) ที่ขุดหาทองอยู่กลางทุ่ง ทีนี้ปู่เขาขุดเจอครับ เลยขนไปกะตรงเข้าเมือง แต่ทีนี้ตอนนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เลยมีทหารนาซียกกองมาเพ่นพ่านในย่านนั้น แล้วพอหัวหน้ากอง (Aksel Hennie) รู้ว่าปู่มีทองก็เลยหมายจะยึดซะ ซึ่งก็แน่นอนว่าปู่ของเราย่อมไม่ยอม และพอดี๊ พอดีที่ปู่ของเราเป็นคนมีของครับ ทหารทั้งกองนั่นก็เลยต้องเจอดีแบบไม่ทันตั้งตัว

ไม่รับประกันว่าทุกท่านจะชอบเรื่องนี้ไหมน่ะนะครับ แต่สำหรับผมบอกเลยว่าชอบ มันคือ John Wick เวอร์ชั่นผู้เฒ่าแล้วบวกด้วยตัวเอกคนอึดแบบ Die Hard คุณปู่ของเรานี่อึดจริงอะไรจริงครับ ตอนต้นๆ เรื่องก็มีห่วงปู่เขาบ้าง แต่พอดูไปเกินครึ่งนี่ก็หายห่วงแล้วครับ รู้ว่าปู่แกใส่สูตรอมตะแน่นอน

หนังจัดว่าสนุกแบบค่อยๆ ไต่ระดับครับ ตอนต้นก็เรื่อยๆ เนิ่บๆ จนปู่เขาได้มาเจอกับพวกนาซี ทีนี้ดีกรีก็เริ่มขยับ ร้อนขึ้นทีละนิด น่าติดตามขึ้นทีละหน่อย บอกก่อนว่าสไตล์หนังไม่ได้ฉับไว เป็นหนังแอ็คชั่นแบบค่อยๆ เดือด แต่แต่ละจังหวะที่หนังเดินไปนั้นถือว่าเดินแบบมั่นคงครับ เพราะระหว่างทางเราจะค่อยๆ รู้อะไรมากขึ้นๆ ไม่ว่าจะอุปนิสัย ปูมหลัง หรือความคิดอ่านของตัวละคร อะไรเหล่านี้มันทำให้หนังดูมีอะไร ไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่นเดินหน้าไล่ตะบันไปเรื่อยๆ เพียงอย่างเดียว

รสชาติการบู๊ของปู่ก็ถือว่าได้ใจครับ ไม่เน้นลีลาแต่มาพร้อมความหนักแน่นและสะใจ อารมณ์ประมาณแรมโบ้น่ะครับ บู๊แบบซุ่มโจมตี ขยี้แบบมีกลยุทธ์ ซึ่งมันอาจไม่ใช่อะไรที่สดใหม่น่ะนะครับ แต่มันสะใจดี – ดาราถือว่าเล่นกันพอเหมาะครับ ดูแล้วชวนให้อิน ฝ่ายดีก็ชวนให้เราเอาใจช่วย ส่วนฝ่ายร้ายก็ทำให้เรารู้สึกไม่ชอบหน้า

Untitled07433

งานภาพถือเป็นอีกหนึ่งของดีครับ ผู้กำกับภาพ Kjell Lagerroos จับภาพอันเวิ้งว้างของท้องทุ่งมาใส่จอได้อย่างพอเหมาะ แล้วที่เข้าทางผมมากๆ คือมันมีฉากถ่ายใต้น้ำด้วยครับ ซึ่งถ่ายออกมาซะสวยเชียว คนชอบฉากลงน้ำแบบผมนี่ถูกใจสิ่งนี้อย่างยิ่ง (แม้จะไม่นาน แต่ก็ได้ใจครับ)

Jalmari Helander ผู้กำกับนั้นเขียนบทด้วยตัวเองเลยครับ โดยเขาได้ไอเดียตอนช่วงที่โควิดระบาด จริงๆ ช่วงนั้นเขาจะต้องไปกำกับหนังเรื่อง Jerry and Ms Universe ที่แคนาดา แต่พอเกิดสถานการณ์โควิดโครงการก็เลยต้องพักไป ระหว่างนั้นเขาเกิดปิ๊งไอเดียหนังเรื่องนี้ แล้วก็ปั่นบทจนเสร็จ โดยวางงบไว้ที่ $6 ล้าน และพอต้องถ่ายทำในช่วงโควิดเลยทำให้กองถ่ายต้องมีขนาดเล็ก มีคนทำงานเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อจะได้ไม่เสี่ยงต่อโรคภัย

และเป็นความตั้งใจของ Helander ที่ให้ความยาวของหนังอยู่ที่ 90 นาทีหน่อยๆ – ส่วนหนึ่งเพราะเขาเองก็ไม่ชอบหนังยาวๆ ครับ ประเภทหนังยาว 3 ชั่วโมงนี่คือจะไม่ใช่แนวเขาเลย – ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีครับ เพราะหนังกระชับ ไม่มีช่วงอืดยืด

ถ้าถามว่าดูแล้วติดตาตอนไหนที่สุด สำหรับผมนี่ติดตาทุกฉากที่ปู่เขาบาดเจ็บน่ะครับ บางฉากนี่เห็นแล้วเจ็บแทนเลย – โดยเฉพาะฉากตรงเสาน่ะครับ ยังจำได้จนถึงตอนนี้ นึกแล้วยังจี๊ดเลย

สรุปว่าหนังน่าดูครับ และเตรียมดูภาค 2 กันได้เลย เพราะได้ไฟเขียวแล้วครับ

สองดาวครึ่งสะใจๆ ครับ

Star22

(7.5/10)