
ใครคาดหวังแอ็คชั่นกับ The Enforcer ต้องลดความคาดหวังด่วนครับ เพราะนี่ไม่ใช่หนังเน้นแอ็คชั่น แต่เป็นหนังชีวิตของคนในสายอาชญากรที่เกิดกลับใจอยากทำอะไรที่มันถูกควรกับเขาบ้าง
คูด้า (Antonio Banderas) คือคนที่เคยอยู่ในวงการอาชญากรรม ทำอะไรผิดมาก็มาก ติดคุกก็เคยมาแล้ว ครั้นพอออกจากคุกเขาก็พบว่าภรรยาไม่อยากข้องเกี่ยวรวมถึงลูกสาวด้วย อะไรเหล่านี้ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามว่าเขาเลือกทางเดินถูกหรือไม่ แล้วก็ประจวบเหมาะที่เขาได้รู้จักกับสเตรย์ (Mojean Aria) หนุ่มหน้าใหม่ที่คิดจะก้าวเดินบนเส้นทางนี้เหมือนกัน และยังมี บิลลี่ (Zolee Griggs) สาวน้อยที่ออกมาเผชิญโลกที่ในเวลาต่อมาต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
จริงๆ สาระของหนังถือว่าดีครับ มันคือการนำเสนอเรื่องของชายคนหนึ่งที่เคยก้าวในเส้นทางสายนี้ แล้วพอโตขึ้นพอผ่านอะไรมาก็เริ่มคิดได้ และอยากจะช่วยเหลือเด็กรุ่นหลังให้ไปเดินเส้นทางอื่น จะได้ไม่ต้องมาเสัยใจภายหลังแบบเขา ก็ถือเป็นหนังสะท้อนสังคมที่ฉายภาพให้เราเห็นโลกของอาชญากรที่ไม่น่าอยู่ และคนที่อยู่ก็มักจะจบไม่สวย
ครับ แง่คิดน่ะดี ส่วนการเดินเรื่องถือว่าเรื่อยๆ ไม่ได้เข้มข้นหรือน่าจดจำนัก ว่าตามจริงที่ผมนั่งดูหนังจนจบนี่ก็เพราะ Banderas นี่แหละครับ รายนี้ก็เหมือนดาราร่วมรุ่นอย่าง Nicolas Cage ที่แม้ระยะหลังจะเล่นหนังเกรดบีเป็นหลัก แต่ถ้าพูดถึงในแง่การแสดงแล้ว เขาไม่เคยเล่นแบบส่งๆ และยังรักษามาตรฐานตัวเองได้อยู่เสมอ แล้วหนังยังมี Kate Bosworth มาร่วมจอด้วยครับ โดยเธอรับบทเอสเตล เจ้าแม่ที่คุมเมืองอยู่ รายนี้จริงๆ ผมว่าก็เล่นดีนะ แต่เธอดูไม่เหมาะกับบทเจ้าแม่ยังไงก็ไม่รู้ ดูบารมียังไม่มากน่ะครับ
เนื้อที่ส่วนใหญ่ในหนังก็จะเป็นเรื่องดราม่าครับ ส่วนแอ็คชั่นนี่กว่าจะมีก็ปาไป 20 นาทีสุดท้าย ไม่ได้มีเยอะครับ และไม่ได้มันส์ด้วย แต่สังเกตได้อย่างหนึ่งว่าหนังแอ็คชั่นยุคหลังๆ นี่เวลาตีกันมักจะต้องมีแสงสีม่วงหรือไม่ก็แสงสีฟ้าเป็นฉากหลังทุกที – เห็นบ่อยจนแทบจะเป็นอีกหนึ่งสูตรประจำหนังที่มีฉากแอ็คชั่นไปแล้ว
ถ้าจะมีอะไรที่ผมชอบ นอกจากแง่คิดสะท้อนโลกสายสีเทา กับการแสดงที่ไว้ใจได้ของ Banderas แล้ว ก็ยังมีดนตรีในฉากสุดท้ายครับ เป็นท่วงทำนองที่รับกับอารมณ์ตอนจบได้เป็นอย่างดี
สรุปว่าถ้าชอบ Banderas ก็ตามมาให้กำลังใจเขาได้ครับ แต่อย่าคาดหวังกับหนังมากก็แล้วกัน
ไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)

หมวดหมู่:Action, Crime, Drama, Movie Reviews, Thriller










