แล้วนี่ก็เป็นการเล่าโคนันมาจนถึงภาคที่ 4 แล้วนะครับ

สำหรับเรื่องในภาคนี้ก็เนื่องมาจากได้เกิดคดีฆาตกรรมตำรวจขึ้น 2 รายในเวลาไม่กี่วัน ทางโมริ โคโกโร่และโคนันก็คอยตามดูเรื่องนี้อยู่ห่างๆ แต่พอไปสอบถามสารวัตรเมงุเระกับหมวดชิราโทริ คำตอบที่ได้กลับเป็นประโยคที่ว่า “Need Not To Know” อันเป็นประโยครหัสที่ใช้กันในหมู่ตำรวจ กล่าวคือถ้ามีการใช้รหัสนี้เมื่อไหร่ล่ะ แสดงว่าคดีที่เกิดขึ้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในระดับสูงของกรมตำรวจแน่นอน

แล้วในงานฉลองแต่งงานของน้องสาวหมวดชิราโทริ ผู้หมวดซาโต้ หญิงแกร่งอีกคนของกรมตำรวจก็มาโดนคนร้ายลอบสังหารต่อหน้าต่อตารัน ซึ่งส่งผลให้ผู้หมวดซาโต้บาดเจ็บสาหัส ส่วนรันก็เกิดอาการความจำเสื่อม จำใครไม่ได้เลยซักคน

แต่ดูเหมือนคนร้ายจะยังคอยตามเล่นงานรันครับ คงเพราะมินคิดว่ารันเห็นหน้ามันแล้ว ก็เลยตามฆ่าตลอด โคนันก็เลยต้องรีบตามหาความจริงว่าใครคือฆาตกร ก่อนที่รันจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

ผมจำได้ว่าตอนดูรอบแรกค่อนข้างเฉยๆ ครับ ไม่ได้อะไรมากมายกับภาคนี้ แต่ออกจะสนุกกว่าภาคที่แล้วหน่อย แต่ก็ยังไม่ถึงกับน่าพอใจเต็มที่ แต่พอคว้ามีดูอีกรอบนี่มันก็กลับรู้สึกโอเคขึ้น … ก็แปลกดีนะ

คือถ้าว่ากันตามเนื้อหาแล้ว การตามสืบ ตามคลายปมของภาคนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องเป็นราวที่สุดในบรรดาตอนที่ผ่านๆ มา นั่นคือมีแนวทางตามล่าไปในทิศทางเดียว ไม่ได้เลี้ยวไปที่โน่นที่นี่เท่าไหร่ คดีที่หนังเล่นคือคดีใหญ่การตามฆ่าตำรวจ ทำให้ทิศทางของเรื่องค่อนข้างแน่นอนครับ

แต่ว่าความน่าติดตามกลับไม่ค่อยจะมากนัก คือมันก็ดูได้ตามสไตล์โคนันล่ะครับ แต่การล่าปมต่างๆ มันไม่ได้เร้าใจเท่าตอนก่อนๆ จะว่าไปแอ๊คชั่นภาคนี้ก็เกือบจะน้อยที่สุดเลยด้วยล่ะมั้ง ยังดีที่ตอนท้ายมีการตามล่ารอบ ทรอปิคัลแลนด์ มาช่วยไว้ เลยพอจะบอกได้ว่าตอนต้นๆ เรื่องค่อนข้างไม่มีอะไรครับ จะมามันส์จริงๆ ต้องตอนท้ายน่ะแหละ ซึ่งก็ล่ากันแบบรอบสวนสนุกจริงๆ ซึ่งหากเป็นหนังที่คนจริงๆ แสดงมันคงจะตื่นเต้นโคตรๆ เลยล่ะครับ แต่เผอิญว่านี่เป็นการ์ตูน ทำให้ความตื่นเต้นหวาดเสียวไม่ค่อยจะพรั่งพรูเท่าไหร่ และจะว่าไปการที่โคนันเป็นที่นิยมมันก็เพราะการสืบคดีต่างหากล่ะครับ ไม่ใช่แอ๊คชั่นผาดโผน ทำให้ภาคนี้แม้แอ๊คชั่นจะดี แต่ส่วนที่ควรเน้นอย่างการตามคดีกลับไม่มากมายเท่าไหร่

นั่นคืออันที่ด้อยของโคนันภาคนี้นะครับ การสืบคดีไม่เต็มที่ กว่าจะเยี่ยมจริงๆ น่ะปาไปท้ายเรื่องเลย แล้วการเปิดตัวฆาตกรก็พอๆ กับภาคก่อน คือโคนันแทบไม่ต้องกระชากหน้ากากเลยครับ เพราะฆาตกรมันตามมาฆ่าเอง เลยแค่รวบรวมข้อสันนิษฐานเท่านั้น ดังนั้นความลุ้นแบบกระชากหน้ากากจอมวายรายในหมู่ผู้คนเลยหายไปด้วย กลายเป็นหนังแอ๊คชั่นสไตล์ฮอลลีวู้ดมากกว่า

พูดเหมือนบ่นนะครับ ก็แค่ว่าตามที่คิดเพราะมันเป็นโคนันที่เหลือเสน่ห์แบบภาคคอมมิคอยู่น้อยเหลือเกิน แต่ก้ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ เพราะอย่างนี้อยหากท่านเป็นแฟนโคนันก็น่าจะสนุกกับตอนนี้ได้ไม่ยาก ไม่ช่เพราะการสืบคดีครับ แต่เป็นเรื่องของรันกับชินอิจิ

หากสังเกตสถานที่ที่เป็นสวนสนุกที่ชื่อ ทรอปิคัลแลนด์ ดีๆ ก็จะพบว่านั่นคือสวนสนุกที่ชินอิจิกับรันไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสอง ในตอนแรกของเรื่องราวไงครับ จำได้มั้ยอะ ที่ชินอิจิไปเที่ยวกับรัน แล้วชินอิจิก็เอาแค่พล่ามถึงเชอร์ล็อค โฮล์มส จนรันโวยออกมา แล้วพอตอนค่ำชินอิจิก็แยกตัวไปจนโดนพวกคนชุดดำทำร้าย แล้วก็กลายเป็นโคนันในเวลาต่อมา

ไอ้สวนสนุกที่ว่านั่นคือสวนสนุกแห่งเดียวกับในภาค 4 นี่แหละ ซึ่งหนังก็เท้าความให้เราจำได้ไว้ในตอนต้นด้วย

ส่วนนี้เป็นรายละเอียดที่ดีล่ะครับ แล้วยังจะคำพูดที่โคนัน (หรือชินอิจิน่ะแหละ) พูดกับรันในตอนกำลังโดนล่า ก็ถือเป็นรอบแรกที่ชินอิจิบอกกันรันไปตรงๆ ว่าเขาน่ะรักยัยนี่มากที่สุดเลย แล้วจุดที่ฮามากคือประโยคที่ว่าเนี่ยดันเป็นประโยคเดียวกับที่โมริ โคโกโร่พ่อของรันขอแม่รันแต่งงานด้วย

เนี่ยครับ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ก็พอจะทำให้เราเพลินกับหนังไปได้ เพียงแต่ถ้าหักกลบลบแล้ว ความน่าพอใจยังไม่มากเท่าที่ควร โดยเฉพาะในส่วนของการตามสืบคดี เพราะตอนแรกเห็นใช้คำว่า Need Not to Know ก็เลยนึกว่าเรื่องมันต้องใหญ่ระดับสามารถสั่นคลอนตำรวจทั้งกองกรมได้ แต่เอาเข้าจริงคดีกลับไม่ใหญ่โตขนาดนั้น แทบไม่ต่างจากปมสังหารตอนปกติทั่วๆ ไปของโคนันน่ะครับ

… นั่นแหละครับที่ผมคิด รอบแรกที่ดูก็งั้นๆ พอมารอบนี้รู้สึกดีขึ้น คงเพราะรายละเอียดเกี่ยวรันและชินอิจินี่แหละครับ หรืออย่างฉากตอนที่รันซึ่งจำอะไรไม่ได้แล้วมานั่งเศร้าคนเดียวตามลำพัง ดูแล้วอึ้งครับ สงสารรันขึ้นมาทันที เนี่ยครับ ผมว่ามันดีเป็นฉากๆ ไปนะ ไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่

แต่ถ้าท่านเป็นแฟนโคนัน ผมก็คงไม่ต้องพล่ามอะไรมากมายจริงมั้ยครับ มันก็ยังเป็นโคนันที่เราชอบอยู่ดี แม้รสชาติจะไม่กลมกล่อมเท่าตอนปกติก็เถอะ แต่อย่างนี้เราก็ได้หเนความห่วงความรักที่ชินอิจิมีต่อรัน มันก็มีความหมายไม่ใช่น้อยแล้วล่ะครับผม

อยู่ที่สองดาวกว่านะครับ

(6.5/10)