
B&B Merry เล่าถึงเทรซี่ ไวซ์ (Jen Lilley) บล็อกเกอร์ท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์ผลงานรีวิวสถานที่ต่างๆ ออกมามากมาย แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้รับการติดต่อจากซิลเวอร์พีค บีแอนด์บี ที่พักเล็กๆ ในรัฐเวอร์มอนต์ที่กิจการเริ่มไม่สู้ดีนัก เนื่องจากมีโรงแรมใหญ่มาเปิดแข่ง โดยบีแอนด์บีแห่งนี้ก็เชิญให้เทรซี่มาลองพักที่นี่ครับ หวังว่าจะทำให้เธอประทับใจและนำเรื่องราวของที่นี่ไปเขียนถึง เผื่อจะช่วยกระตุ้นให้คนมาเข้าพักได้บ้าง
จริงๆ หนังมีรายละเอียดมากกว่านี้ครับ แต่ไปรับไปรู้เองในหนังก็น่าจะได้ เอาเป็นว่าเทรซี่ก็มาถึงบีแอนด์บีแห่งนี้ และได้เจอกับเกรแฮม คูเปอร์ (Jesse Hutch) ลูกชายเจ้าของบีแอนด์บีแห่งนี้ และก็นั่นแหละครับ ถึงจุดหนึ่งพวกเขาก็จะรักกัน
เป็นหนังรักวันคริสต์มาสอีกเรื่องที่ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ อาจไม่ได้กลมกล่อมยอดเยี่ยม แต่ก็ดูได้เพลินๆ พร้อมเสพความสบายใจและ Feel Good แบบครบถ้วน ผมว่าหนังมาพร้อมองค์ประกอบที่จะทำให้บางท่านอินไปกับเรื่องราวได้นะครับ อย่างการที่คนในบีแอนด์บีเล็กๆ แห่งนี้พยายามหาทางจะไปต่อหลังจากที่ไม่มีคนมาพักเลย นี่ก็เรียกความเห็นใจให้คนดูได้พอสมควรแล้ว และสมาชิกในบีแอนด์บีก็ถือว่าค่อนข้างน่ารัก – แม้คุณป้าบาร์บ (ShellyLyn Williams) จะดูยุ่งไปนิดก็เถอะ – แต่โดยรวมแล้วพล็อตแบบนี้ก็ได้ใจคนที่เซ็นซิทีฟในระดับหนึ่งแล้วล่ะ อย่างภรรยาผมนี่ดูจะอินอยู่เหมือนกัน
ส่วนผมก็อินในระดับหนึ่งครับ ปกติผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วล่ะ เวลาเห็นร้านไหนหรือที่ไหนขายไม่ดี ก็อยากให้เขาขายดี หรือไม่ก็อยากช่วยซื้อ ซึ่งอารมณ์เห็นใจอะไรเหล่านี้มีผลให้ผมรู้สึกเพลินไปกับหนังพอสมควร ซึ่งก็ต้องขอเอาเรื่องนี้มาบอกไว้ก่อนล่ะครับ เพราะผมเชื่อว่าคงมีหลายท่านที่อาจจะไม่ได้มีอารมณ์ทำนองนี้ ดังนั้นความอินต่อเรื่องราวก็จะแตกต่างกันไป ใครเห็นใจก็อาจจะอิน หรือใครมองว่าอะไรเหล่านี้คือเรื่องธรรมดาของโลกก็อาจจะมองอีกมุมหนึ่ง

หนังเลยถือว่าดูได้เรื่อยๆ สำหรับผมครับ ดูไปก็คอยเอาใจช่วยบีแอนด์บีแห่งนี้ไป (แม้จะรู้ว่ายังไงตอนจบก็แฮปปี้อยู่แล้วก็ตาม) ส่วนความโรแมนติกของคู่พระนางก็ถือว่าไม่เลว ผมชอบที่หนังเล่าเรื่องค่อนข้างเร็ว ไม่มั่วเยิ่นเย้อ อย่างการที่แฟนของเทรซี่บอกเลิกเธอตั้งแต่ต้นเรื่อง แล้วคนในบีแอนด์บีก็รู้ในเวลาอันสั้น ทำให้การจีบกันระหว่างเทรซี่และเกรแฮมดำเนินไปทันที ไม่ต้องรอนาน และเคมีของพวกเขาก็ถือว่าเข้ากันพอสมควรครับ ดูไปก็สัมผัสได้อยู่
ว่าตามจริงหนังไม่มีอะไรเกินคาดครับ เดาได้ไม่ยาก แต่กระนั้นหนังก็ถือว่าดูได้เพลินๆ ดูแล้วได้รอยยิ้ม ระหว่างดูเราก็จะอิ่มเอมไปกับบรรยากาศวันคริสต์มาสที่ฉากต่างๆ ก็สามารถจัดได้ดีครับ มาพร้อมต้นสน ไฟประดับ และของประดับต่างๆ ดูแล้วมันได้ความสดชื่นน่ะครับ และจริงๆ หนังก็เปิดประเด็นเกี่ยวกับการที่โรงแรมของพวกนายทุนทุนสูงๆ มีผลต่อความอยู่รอดของที่พักขนาดเล็ก แล้วก็มีการเปรียบเทียบให้เห็นอารมณ์ที่แตกต่างยามที่เทรซี่อยู่ที่บีแอนด์บีกับอยู่ที่โรงแรมหรู แม้จะดูจงใจอยู่บ้างแต่ก็พอเข้าใจสิ่งที่หนังพยายามสื่อน่ะครับ เพียงหนังก็ไม่ได้ลงลึกกับประเด็นนี้มากนัก
เช่นเดียวกับประเด็นเกี่ยวกับพ่อหรือแม่ของเกรแฮมที่จริงๆ ก็ดูเหมือนจะมีอะไร แต่หนังก็แตะในระดับหนึ่งเท่านั้นครับ
เหมือนกับหนังคริสต์มาสสไตล์นี้หลายๆ เรื่องที่มักจะเปิดประเด็นชวนให้สนใจในตอนเริ่ม แต่ตัวหนังก็จะไปเน้นที่เรื่องโรแมนซ์มากกว่าจะวิพากษ์ประเด็นเหล่านี้ – ก็เข้าใจแหละครับว่าทำหนังออกมาเพื่อเสิร์ฟความสุขเป็นหลัก มากกว่าจะมาสะท้อนสังคม ก็เข้าใจเจตนาครับ
ผมก็เสพไปตามที่หนังเสิร์ฟครับ ดูแล้วก็ Feel Good น่ารักดี แต่ติดหน่อยๆ ตรงที่หนังจบแบบค่อนข้างห้วน ถึงขั้นภรรยาผมเองยังบอกเลยว่า “นี่จบแล้วเหรอ?”
ก็เป็นหนังคริสต์มาสอีกเรื่องที่ดูเอาความสบายใจครับ มาพร้อมความรักน่ารักๆ และบรรยากาศคริสต์มาสสวยๆ อบอุ่นๆ ไม่ได้ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ แต่ถ้าอยากได้อะไรที่ดูแล้วสบายใจ เรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ได้อยู่ครับ
สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)










