Christmas Movies

Christmas at the Drive-In (2022) คริสต์มาสที่ไดรฟ์อิน

Untitled06802

หลังจากไล่ดูหนังคริสต์มาสมาแล้วหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่เจอที่ถูกใจเสียที บางเรื่อง Feel ก็ไม่ Good ดังคาด บางเรื่องก็ยังไม่กลมกล่อมแบบเต็มที่ จนกระทั่งเรื่องนี้นี่แหละที่ค่อยพูดได้อย่างเต็มปากหน่อยว่าดูแล้ว Feel Good ได้พลังพร้อมได้ความรู้สึกดีๆ ติดตัวกลับมา

เซดี้ วอล์คเกอร์ (Danica McKellar) ทนายสาวที่ย้ายจากชิคาโกกลับมารับงานเป็นอาจารย์สอนในเมืองเบรนนิงตันบ้านเกิดของเธอ แต่ทีนี้เธอก็ไปรู้มาว่าแม็คคาร์ธีไดรฟ์อิน โรงหนังเก่าแก่ประจำเมืองกำลังจะถูกขายโดยแฟนเก่าของเธอ โฮลเดน (Neal Bledsoe) ที่ตอนนี้เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้ประสบความสำเร็จ และจริงๆ เขาได้ทำเรื่องขายโรงหนังไปแล้วครับ แต่ติดตรงที่โรงหนังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นโฮลเดนจะขายได้ก็ต่อเมื่อคณะกรรมการเมืองอนุมัติให้ขายเท่านั้น

เซดี้เลยออกโรงค้านหัวชนฝาต่อหน้าคณะกรรมการเมืองครับ แต่ทีนี้เนื่องจากโฮลเดนกำลังจะขายที่ให้กับกลุ่มทุนที่จะมาพร้อมตำแหน่งงานมากมายให้กับชาวเมือง คณะกรรมการจึงต้องประชุมเพื่อถกกันว่าจะอนุมัติให้ขายหรือไม่ แบบไหนที่จะสร้างประโยชน์ให้เมืองได้มากกว่ากัน

หลังการหารือ คณะกรรมการจึงได้ยื่นข้อเสนอว่า หากอยากจะรักษาโรงหนังไว้ เซดี้จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญและเป็นศูนย์รวมใจของคนในเมือง ดังนั้นเซดี้เลยทุ่มเทเต็มที่เพื่อฟื้นฟูโรงหนังแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และกรรมการเมืองก็ได้มอบหมายให้โฮลเดนช่วยเหลือเซดี้ เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ครับ เขาเลยต้องช่วยแบบตกกระไดพลอยโจน

เล่ามาถึงตอนนี้ ก็น่าจะถึงจุดที่พวกท่านเดาได้แล้วล่ะนะครับ ลองว่าแฟนเก่ากลับมาใช้เวลาอยู่กับแฟนเก่า ในสถานที่ที่พวกเขาเคยมีความหลังกันมาก่อน แบบนี้จะไม่ลงเอยด้วยความรักได้อย่างไร 555

ว่าตามจริงพล็อตเดิมๆ มากครับ แต่หนังดูสนุก พลังสำคัญของหนังคือการแสดงของคู่พระนางครับ McKellar กับ Bledsoe เคมีเข้ากันอย่างแรง ไม่ใช่ “อย่างมาก” นะครับ แต่ “อย่างแรง” เลย คือดูแล้วเชื่อเลยว่าคู่นี้เป็นแฟนเก่าที่มีอดีตต่อกันมาจริงๆ ยิ่งฉากที่ทั้งคู่คุยกันที่ไดรฟ์อินถึงเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องเลิกกันในตอนแรก ฉากที่ว่านี่รับส่งอารมณ์กันอย่างน่าปรบมือ จนผมนี่ถึงขั้นเอามือขวายกขึ้นมาทาบอกแบบไม่รู้ตัวเลยน่ะครับ คือดูแล้วอินมาก และอยากให้พวกเขากลับมาเป็นแฟนกันอีกครั้ง

Untitled06803

ซึ่งต้องบอกเลยครับว่าไม่ใช่หนังทุกเรื่องที่จะทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้นะ ส่วนใหญ่เวลาดูหนังแนวนี้ก็จะไม่ได้เชียร์พระนางอะไรมาก เพราะรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวตอนจบพวกเขาต้องสมหวังกัน ไม่ต้องเชียร์ก็สมหวัง แต่กับเรื่องนี้นี่ใจมันเชียร์ครับ มันอยากให้พวกเขาได้โอกาสกลับมารักกันอีกสักครั้งจริงๆ – ไม่อินก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะ

ผมดูหนังแนวนี้มาก็เยอะนะครับ หนังหลายเรื่องจะให้พระนางมาร่วมจอกันเยอะๆ เข้าว่า คืออารมณ์จะหวานไม่หวานก็อีกเรื่อง แต่จะเน้นจำนวนฉากให้พระนางอยู่ด้วยกันเยอะๆ มันจะได้ดูสมเหตุสมผลยามพวกเขาลงเอยกันในตอนท้าย ซึ่งบอกเลยว่าหนังบางเรื่องก็ทำได้แค่ในเชิงปริมาณครับ คือพระนางอยู่ร่วมจอกันบ่อยจริงน่ะแหละ แต่อารมณ์สวีทมันไม่ได้เลยก็มี แต่กับเรื่องนี้ตลอดเวลาที่พระนางอยู่ด้วยกัน มันสัมผัสได้ตลอดถึงสายใยที่พวกเขามีระหว่างกัน – ผมอาจจะดูอินออกนอกหน้าครับ แต่เชื่อเถอะว่าผมว่าไปตามที่คิดจริงๆ

จริงๆ คู่พระนางเข้ากันก็ทำให้หนังโอแล้วล่ะครับ แต่ของดียังไม่หมด ยังมีเรื่องดนตรีอีก ดนตรีอ่อนโยนกำลังดีมากๆ ซึ่งเป็นผลงานของ Angelo Oddi ที่ผมเพิ่งประทับใจเขาไปหมาดๆ ในหนัง Fall Into Winter มาเรื่องนี้ก็พอกันครับ ท่วงทำนองอ่อนโยนและอบอุ่นช่วยเสริมอารมณ์ให้กับหนังได้อย่างพอเหมาะ แล้วไหนจะฉากสยๆ บรรยากาศไฟประดับก็ได้อารมณ์วันคริสต์มาสแบบสุดๆ อันนี้ก็ขมชมผู้กำกับภาพ Jonathan Yapp ครับที่สามารถจับภาพสวยๆ มาขึ้นจอได้อย่างพอเหมาะ รายนี้ก็เคยทำให้ผมรู้สึกโอเคมาแล้วใน Fall Into Winter เหมือนกัน

เป็นอีกเรื่องที่ผมเชียร์ให้ดูครับ ดาราดี โทนดี บรรยากาศดี แต่ยังไม่ถึงขั้นดีสุดๆ ตรงการเดินเรื่องครับ ว่าตามจริงคือพลังที่ทำให้หนังน่าติดตามคือคู่พระนางมากกว่าการเล่าเรื่อง และเทคนิคการเล่าเรื่องในตอนท้ายที่ว่าด้วยการแก้ปมปัญหาว่าสุดท้ายแล้วโรงหนังจะต้องถูกขายไหม หรือปมรองที่เกี่ยวกับคดีที่ดินที่เซดี้ต้องไปช่วยหญิงสาวคนหนึ่ง จริงๆ การคลายปมเหล่านี้ถ้าเล่าดีๆ มันจะเป็นอะไรที่ทรงพลังพอดูเลยครับ มันสามารถมาพร้อมความซึ้งกินใจได้เลยล่ะ แต่หนังกลับเล่าตอนไคลแม็กซ์แบบทื่อๆ เลยทำให้หนังไม่สุดอย่างที่ควรจะเป็น – ถ้าจะมีอะไรที่เสียดายก็คือนี่ล่ะครับ

สรุปว่าหนังเรื่องนี้ Feel Good ดูแล้วแฮปปี้ พระนางเคมีเข้ากันดี บรรยากาศต่างๆ ถือว่าพอเหมาะ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)

Untitled06804