Action

Cold Pursuit (2019) แค้นลั่นนรก

Untitled06347

เคยดู Cold Pursuit รอบหนึ่งแล้วไม่ได้ติดใจอะไรมาก แต่นี่เอามาดูอีกสักรอบเผื่อจะรู้สึกดีขึ้นครับ เพราะระยะหลังนี่หนังของป๋า Liam Neeson ดูสนุกน้อยลงเรื่อยๆ

เรื่องนี้รีเมคจากหนังนอร์เวย์เรื่อง Kraftidioten หรือ In Order of Disappearance ครับ เรื่องนั้นได้ Stellan Skarsgård แสดงนำ และกำกับโดย Hans Petter Moland ซึ่งเขาก็กลับมารับหน้าที่กำกับให้กับฉบับรีเมคนี้ด้วย

เนลส์ ค็อกซ์แมน (Liam Neeson) ต้องมาเจอข่าวร้ายเมื่อลูกชายของเขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการเสพยา เขาเลยตามล่าหาความจริงว่ามันเกิดอะไรกับลูกเขากันแน่ แล้วเงื่อนงำก็พาเขาไปเจอกับเจ้าพ่อค้ายาประจำเมืองอย่างเทรเวอร์ คัลโคต (Tom Bateman) ที่มีลูกน้องห้อมล้อมมากมายเต็มไปหมด เนลส์เลยเริ่มเดินแผนล้างแค้นแก๊งนี้อย่างสาสม

ผมเชื่อว่าหลายท่านคิดว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแนวแอ็คชั่น แต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่ครับ หนังเป็นแนวดราม่าผสมตลกร้าย เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบแสบๆ ในขณะที่แอ็คชั่นนั้นถ้าให้ประเมินคร่าวๆ ผมว่ามีไม่น่าจะเกิน 15% เท่านั้นเอง และที่ว่าแอ็คชั่นนี่คือแอ็คชั่นแนวยิงกันครับ ไม่ใช่แอ็คชั่นปะทะร่างกาย

สำหรับผมแล้วหนังจัดว่าเรื่อยๆ ครับ ถามว่ามีเบื่อไหม ว่าตามตรงก็คือมีบ้าง เพราะหนังเดินเรื่องแบบเรื่อยๆ ปมก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือเข้มข้นอะไร ความระทึกก็ไม่เยอะ อย่างที่บอกน่ะครับว่ามันออกแนวดราม่าผสมตลกร้าย ซึ่งในแง่ของตลกร้ายแล้วผมว่าก็พอได้นะ อารมณ์ขันมันเกิดจากบุคลิกของตัวละครต่างๆ น่ะครับ แต่ละคนก็มีความเยอะความกวนในแบบของตัวเอง โดยเฉพาะเหล่าลูกน้องของเทรเวอร์ที่ดูมีรายละเอียดแปลกๆ แล้วยังจะมีตัวละครฝั่งแก๊งค้ายาอินเดียนแดงอีก ถ้าใครชอบอะไรแบบนี้ก็อาจจะขำบ้าง

Untitled06348

หรือมุกฮาเจ็บๆ ก็อย่างตอนที่ไวท์บูล (Tom Jackson) หัวหน้าแก๊งค้ายาชาวอินเดียนแดงเดินชมข้าวของในโรงแรม ซึ่งร้านที่ว่านี่ทำท่าจะขายของที่ผลิตโดยชาวอินเดียนแดง แล้วเขาก็เจอผ้าขนสัตว์เขาผืนหนึ่ง เขาถือมันขึ้นมาก่อนจะเจอคำว่า “Made in China” ติดไว้ มันก็จะแสบๆ ประมาณนี้น่ะครับ

ก็ประมาณนี้ครับ ทีนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบ หากคาดหวังแอ็คชั่นก็โปรดทราบไว้ก่อนเลยว่าหนังไม่แอ็คชั่นสักเท่าไร โดยส่วนตัวผมว่าหนังเหมาะสำหรับคนที่ชอบป๋า Liam น่ะครับ อย่างน้อยเรื่องนี้เขาก็ยังแสดงได้ไว้ลายอยู่ แต่บทของป๋าก็ไม่ได้เยอะนะ เพราะหนังเฉลี่ยเกลี่ยบทไปที่ตัวละครอื่นๆ ค่อนข้างมากอยู่ และยังมีดาราหน้าคุ้นอย่าง Emmy Rossum กับ William Forsythe มาร่วมจอด้วย ซึ่งรายหลังน่ะมาน้อยแต่ก็ค่อนข้างน่าจดจำครับ ในขณะที่รายแรกนั้นรับบทแบบที่ใครมาเล่นก็ได้น่ะครับ ไม่ได้เด่นอะไร ทั้งที่ปรากฏตัวบ่อยแท้ๆ

ถ้าจะมีอะไรที่ผมรู้สึกชอบในหนังเรื่องนี้ก็มี 2 อย่างครับ อย่างแรกคืองานภาพที่ถ่ายออกมาได้สวยดี ปกติผมจะไม่ชอบหนังที่มีบรรยากาศแบบหิมะล้อมรอบ เพราะมันจะดูเนือยๆ แต่กับเรื่องนี้ภาพถ่ายออกมาได้สวยทีเดียวครับ ยิ่งภาพตอนรถขับบนถนนตรงเข้าไปยังเมืองนี่ถือว่าถ่ายได้ดีเลยล่ะ (ผู้กำกับภาพเรื่องนี้ก็คือ Philip Øgaard ซึ่งเขาก็กำกับภาพให้หนังต้นฉบับด้วยครับ)

อีกอย่างที่ชอบคือดนตรีครับ ได้กลิ่นอายยุโรปหน่อยๆ แปลกหูดีสำหรับหนังฟากมะกัน ซึ่งก็เป็นผลงานของ George Fenton แห่ง Groundhog Day น่ะครับ

สรุปว่าหนงไม่ถึงระดับที่ต้องดูครับ แต่ถ้าอยากตามไปให้กำลังใจป๋า Liam หรือเป็นคนโอเคกับหนังอารมณ์ขันแสบๆ ว่าด้วยการตามล่าล้างแค้นก็สามารถลองได้ครับ แต่ก็ต้องบอกก่อนนะนะครับว่ามันก็ยังไม่เด็ดมากนักครับ

สองดาวครับ

Star21

(6/10)