
หนังระทึกแนวนี้มีมาเรื่อยๆ ครับ ประเภทว่าไปติดแหง็กอยู่จุดไหนสักแห่งแล้วหาทางออกจากตรงนั้นไม่ได้ ที่เหลือก็ต้องให้ผู้ชมมานั่งลุ้นกันว่าตัวเอกจะรอดออกมาได้ยังไง จะรอดกันได้ครบทุกคนไหมอะไรประมาณนั้น
สำหรับเรื่อง Fall นี่ จัดว่าใช้ได้นะครับ ช่วงต้นก็ปูพื้นตัวละครตามแบบฉบับ ก่อนที่เหล่าตัวละครจะนำพาตัวเองไปสู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งที่ไหนสักแห่งในเรื่องนี้คือเสาส่งสัญญาณสูง 2,000 ฟุตครับ คือมันจะมีปมบางอย่างให้ตัวละครทั้ง 2 อย่าง เบคกี้ (Grace Caroline Currey) และฮันเตอร์ (Virginia Gardner) ตัดสินใจปีนขึ้นไป ซึ่งตอนขึ้นน่ะขึ้นได้ครับ แต่ตอนลงนี่แหละที่มันแสนจะยากเย็น
ผมเตรียมใจรับมือกับหนังก่อนที่จะดูครับ นั่นคือเตรียมใจเผื่อไว้ว่าเราอาจต้องเจอกับตัวละครที่เฮ้วๆ ห้าวๆ รอบคอบน้อย หรือใช้อารมณ์นำทางเป็นหลัก เพราะสารภาพว่าหลายวาระผมจะแอบรำคาญกับตัวละครสไตล์นี้ และก็ถือเป็นเรื่องดีครับที่เตรียมตัวไว้ เพราะคาแรคเตอร์ของ 2 ตัวนำในตอนต้นๆ นั้นก็ถือว่าเอาแต่อารมณ์, ไม่ฟังคำเตือนของคนที่ห่วงใย และบางครั้งก็ทำอะไรแบบไม่ระวังจนเกือบได้ตายก่อนไปปีนเสาซะอีก แต่ก็ยังดีครับหนังยังพอจะเกริ่นบอกที่มาที่ไปของการที่ตัวละครในเรื่องตกอยู่ในห้วงอารมณ์นั้น – รวมถึงปมอื่นๆ ที่เผยในภายหลัง ก็ทำให้พอเข้าใจพวกเธอมากขึ้นด้วยครับ
ช่วงต้นเลยพอจะหลับตาข้างหนึ่งมองข้ามไปได้ และจะว่าไปแล้วจุดสำคัญจริงๆ มันอยู่ตรงความระทึกตอนพวกเธอไปติดอยู่บนยอดเสาต่างหาก จุดนี้มากกว่าที่น่าสนใจใคร่ดู

ครั้นพอถึงวาระที่พวกเธอติดอยู่บนเสานี่ ก็ถือว่าโอเคนะครับ มีความลุ้นไหลมาเป็นพักๆ สลับกับเรื่องของปมในใจของตัวละครที่ทำให้หนังดูมีอะไรมากขึ้น และทำให้ตัวละครดูมีมิติมากขึ้น ในแง่การเล่าเรื่องแล้ว ถือว่าหนังทำได้เข้าท่าอยู่ครับ ในส่วนของความระทึกก็จัดว่าน่าพอใจ ในส่วนของตัวละครก็มีอะไรให้สนใจเช่นกัน หนังจึงค่อนข้างน่าติดตามพอสมควร
แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าใครไม่ถูกเส้นกับความสูงนี่อาจต้องทำใจหน่อยนะครับ เพราะหนังมันเล่นกับความสูงน่ะ มีอะไรให้หวาดเสียวอยู่เรื่อยๆ
โดยรวมแล้วผมโอเคกับหนังครับ อาจไม่ถึงกับชอบจัดๆ แต่ก็ดูเพลินอยู่ เอาหนังไปเข้าแก๊งกับพวก The Shallows, 47 Meters Down (ภาคแรก) หรือ Adrift ได้เลยครับ ใครชอบหนังสไตล์นี้ผมว่าน่าจะโอเคนะครับ ใช้ได้อยู่ และถ้ามีโอกาสผมก็อาจเอามาดูซ้ำครับ ถือว่าตื่นเต้นแบบกำลังดี หวาดเสียวน่าพอใจ
ดาราในเรื่องมีกันไม่กี่คนครับ 2 สาวก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี แต่รายที่ผมชอบมากกว่าใครต้องยกให้ Jeffrey Dean Morgan ที่มารับบทเป็นพ่อของเบคกี้ รายนี้ก็เหลือเกินครับ เล่นได้มันทุกบท ตอนเป็นคนไม่ดีหรือไม่น่าไว้ใจก็ชวนให้ผวาซะ แต่กับเรื่องนี้เขาทำให้เราเชื่อครับว่าเขาคือพ่อที่ห่วงลูก แววตา ท่าทาง น้ำเสียงตอนต้นเรื่องนี่ดูแล้วเห็นใจเลยครับ เพราะมันบอกชัดน่ะว่าเขาห่วงลูกมากจริงๆ แต่ขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าลูกยังอยู่ในความเศร้า จะพูดจะบอกอะไรก็แอบเกร็ง ไม่กล้าอะไรมากเพราะเดี๋ยวลูกจะไม่ยอมฟัง – เล่นดีมากจริงๆ ครับพี่
เอาเป็นว่าชอบหนังแนวเอาตัวรอดในพื้นที่จำกัดก็จัดได้เลยครับ
สองดาวบวกๆ ครับ

(6.5/10)
หมวดหมู่:Disaster Movies, Movie Reviews, Thriller










