Action

Bad Boys (1995) แบ็ดบอยส์ คู่หูขวางนรก

1398702104

หนังบู๊ดูมันส์ ผลงานแจ้งเกิดของผู้กำกับ Michael Bay และยังถือเป็นหนังที่ดันให้ Will Smith และ Martin Lawrence เป็นที่จับตาในวงการมากยิ่งขึ้น

เรื่องก็ลงสูตรตำรวจคู่หูคู่กัด ไมค์ ลาวรี่ย์ (Smith) และมาร์คัส เบอร์เน็ตต์ (Lawrence) ที่ต้องมาร่วมกันคุ้มกันพยานสาวสวยนามว่า จูลี่ ม็อต (Téa Leoni) ที่หนีตายจากการตามล่าของพวกผู้ร้าย และเป็นไปได้มากว่าเจ้าผู้ร้ายกลุ่มนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยเฮโรอีนที่เป็นของกลางไปจากกรมตำรวจ

ดูมันส์และเพลินดีจริงๆ ครับ งานด้านภาพของ Bay ถือว่ามีส่วนทำให้รสชาติหนังมันอร่อยขึ้น มีสีสัน มีลีลาการเหวี่ยงกล้องที่เสริมได้ทั้งความเท่ห์และความตื่นเต้น พวกฉากระเบิดหรือฉากไล่ยิงกันถือว่าวางมุมกล้องได้ไม่เลวครับ เรียกว่าถ้าปรารถนาความมันส์ล่ะก็ Bad Boys ถือว่ามีพร้อม

ด้านดาราก็เลือกมาเหมาะมากครับ Smith ไปได้สวยกับบทไมค์ที่ดูเจ้าชู้ กรุ้มกริ่ม มีเสน่ห์ แต่ก็เด็ดเดี่ยวกล้าตายทุ่มเกินร้อยเสมอในเวลาปฏิบัติหน้าที่ ส่วน Lawrence ก็ออกแนวฮาครับ แม้หุ่นจะไม่สมาร์ทเท่า Smith แต่พี่แกมีความขำและความน่ารักเป็นอาวุธ เรียกว่าการเฉลี่ยความเด่นของ 2 ตัวนำนั้นทำได้น่าพอใจครับ ส่วนบทสมทบทั้งหลายก็ถือว่าน่าจดจำ ไม่ว่าจะ Leoni ที่ดูสวยเด่นพอตัว, Tchéky Karyo ในบท ฟูเช่ต์ จอมวายร้ายประจำเรื่อง ที่รัศมีดีกรีโหดจัดว่าน่าพอใจ และที่ลืมไม่ได้คือ Joe Pantoliano ในบทผู้กองฮาเวิร์ด หัวหน้าของ 2 หน่อที่เจอหน้าไมค์และมาร์คัสทีไรเป็นอันด่าลูกน้องกราดจนลืมบ้านเลขที่ทุกที

ครับ หนังมันส์ ดูสนุก แม้อะไรๆ ก็อาจยังไม่ลงตัวเต็มที่ แต่ก็ได้พลังจากองค์ประกอบต่างๆ มาค้ำยันหนังเอาไว้ ไม่ว่าจะดาราดี แอ็คชั่นมันส์ และภาพกระตุ้นอะดรีนาลีน เพียงแต่ลูกเล่นบางประการอาจยังไม่เยอะ แต่ก็พอเข้าใจครับเพราะนี่เป็นงานกำกับหนังใหญ่ชิ้นแรกของ Bay ต้องรอจนงานชิ้นต่อไปของเขาอย่าง The Rock ที่อะไรต่อมิอะไรที่ยังไม่ลงตัวค่อยดูกลมกล่อมลงตัวมากขึ้น

และอีกสิ่งที่ช่วยเสริมความมันส์ระห่ำได้พอตัวคือดนตรีของ Mark Mancina (Speed, Assassins, Twister และ Money Train) โดยเฉพาะครึ่งหลังนี่จัดเต็มอย่างมันส์จริงๆ สำหรับสารพัดดนตรีทั้งหลาย เข้ากับงานภาพหวือหวาของ Bay มากๆ

bad-boys-1995-02-di-1

ส่วนเกร็ดหนังที่อยากเล่าก็คือ แรกเริ่มเดิมทีคนที่จะมาแสดงคู่กันในเรื่องก็คือ Eddie Murphy และ Wesley Snipes ครับ และตอนแรกบทหนังเรื่องนี้อยู่ในมือ Disney ครับ แล้ว Sony ก็เจรจาขอซื้อบทมาในราคา $3 ล้าน แล้วก็วางแผนว่าจะให้ Martin Lawrence มาแสดงนำคู่กับ Arsenio Hall ดาราและพิธีกรชื่อดังในยุคนั้น แต่ Bay มองว่า Hall ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะ และเขาก็เล็ง Smith ไว้ เพราะตอนนั้น Smith กำลังดังจากซีรี่ส์ The Fresh Prince of Bel-Air เลยทำให้ Smith ได้เข้ามารับบทแทน

ว่ากันว่า Bay ไม่ชอบบทดั้งเดิมสักเท่าไร เลยบอกกับทาง Sony ไปว่าขอเพิ่มงบสำหรับให้คนมารีไรต์บทได้ไหม? ผลก็คือทางค่ายให้มา $10,000 เหรียญ แต่สำหรับสมัยนั้นการจะจ้างใครมารีไรต์บทเนี่ย มันต้องจ่ายเป็นหลักแสนครับ – หลักหมื่นน่ะไม่มีใครมาหรอก

Bay เลยไม่มีทางเลือก หันไปหารือกับ Lawrence และ Smith โดยอาศัยว่าพวกเขาทั้ง 2 เคยผ่านงานซีรี่ส์ซิตคอมกันมาทั้งคู่ Bay เลยบอกให้พวกเขาด้นสดไปเลยแล้วกัน ประมาณว่าตลอดเวลาที่กล้องถ่ายอยู่เนี่ย ถ้าพวกเขาอยากจะด้นอะไรแบบไหนก็จัดไปได้เลย ดังนั้นหลายฉากที่เราเห็นในหนังก็มาจากการด้นสดหน้างานของพวกเขานั่นเอง

และเรื่องยังไม่หมดครับ ด้วยความที่งบถูกจำกัดแบบสุดๆ Bay จึงต้องถ่ายทำหนังแบบประหยัดงบที่สุด เช่นฉากแอ็คชั่นบางฉากเนี่ย ปกติทั่วไปเขาจะใช้เวลาถ่ายทำกันประมาณ 4 วัน แต่ Bay ต้องงัดพลังความสามารถทั้งหมดที่มี มาใช้ในการถ่ายทำให้เสร็จภายในวันเดียว

แต่ที่หนักสุดคือในฉากไคลแม็กซ์สุดท้ายของเรื่อง ทางค่ายแทงเรื่องลงมาเลยว่าจะไม่มีการเพิ่มงบให้แล้วนะ Bay ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยครับ จนในที่สุดเขาเลยตัดสินใจเอาเงินค่าแรงของตัวเองนี่แหละ เอามาใช้ไปกับการถ่ายทำฉากสุดท้ายนั่น – เรียกว่างานนี้ Bay ทุ่มสุดตัวแบบจริงๆ ไปเลย

และ Bay ยังเคยออกมาบ่นว่าแม้งบสร้างอย่างเป็นทางการของหนังจะอยู่ที่ $17 ล้าน แต่เอาเข้าจริงเขาได้ใช้งบในการสร้างไปเพียง $9 ล้านเท่านั้น เพราะค่าตัวของ Lawrence อยู่ที่ $6 ล้าน ส่วน Smith อยู่ที่ $2 ล้าน หักไปหักมาเลยเหลือให้ Bay เอาไปใช้ประมาณ $9 ล้าน – แต่บ้างก็บอกว่างบสุทธิสุดท้ายไปจบที่ประมาณ $19 หรือ $23 ล้านครับ – แต่ไม่ว่างบตัวไหนจะเป็นงบจริงก็เถอะ ก็ต้องยอมรับว่า Bay ได้ทุนในการสร้างจำกัดจริงๆ

แต่เมื่อหนังได้ออกฉาย ก็ทำเอาหลายฝ่ายหายเหนื่อยไปตามๆ กัน เพราะหนังทำเงินไปทั่วโลก $141 ล้าน ซึ่งก็กำไรแน่นอนและแจ้งเกิดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

สำหรับยุคนั้นหนังถือว่าทำออกมาได้มันส์สะใจ แม้เอามาดูยุคนี้ก็ยังรู้สึกเพลินอยู่ครับ

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)