หนังสยองทุนไม่สูงเรื่องนี้ได้คะแนนนิยมในเว็บ IMDB ในระดับที่ไม่ค่อยธรรมดา ว่าง่ายๆ คือมันค่อนไปทางดีน่ะครับ ซึ่งก็ทำให้ผมสนใจอยากรู้จริงๆ ว่าหนังมันเป็นยังไง เพราะหน้าหนังมันดูไม่น่าจะมีอะไรเท่าใดนัก

Night of the Comet เปิดเรื่องมาก็แนะนำให้เราได้รู้จักกับสองสาว เรจิน่า (Catherine Mary Stewart) ที่กำลังเซ็งกับแฟนไม่เอาไหนที่หวังจะขึ้นเตียงกับเธอเพียงอย่างเดียว กับ ซาแมนต้า (Kelli Maroney) น้องสาวของเธอที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งก็กำลังหน่ายสุดขีดกับแม่ตัวเองเหมือนกัน แล้วคืนแย่ๆ ก็ผ่านไปอีกคืน

ครั้นพอสองพี่น้องตื่นเช้าขึ้นมาก็เจอเรื่องผิดปกติครับ เพราะคนหายไปหมด ไม่ใช่แค่ในบ้านเธอนะครับ แต่เป็นคนทั้งเมืองเลย หายไปหมด ซ้ำท้องฟ้ายังปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีแดง เช่นเดียวกับตามพื้นถนนที่มีฝุ่นพวกนี้กระจัดกระจายเต็มไปหมด ผสมกับเสื้อผ้าที่กองอยู่ทั่วไป… ราวกับทุกคนที่อยู่นอกบ้านกลายเป็นฝุ่นผงไปจนเรีบยวุธหลังเหตุดาวหางเฉียดโลกเมื่อคืนนี้

เอาล่ะสิครับ โลกไม่เหลือใครแล้วเหรอ… ก็ไม่เชิงหรอกครับ เพราะสองพี่น้องยังต้องเจอกับซอมบี้กลายพันธุ์ ตามด้วยผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่เหมือนเธอ แต่บางคนก็ดี และบางคนก็ชั่วร้าย กลายเป็นคนกินคนด้วยกัน ไหนจะนักวิทยาศาสตร์ลึกลับที่มีท่าทางไม่ค่อยจะหวังดีกับพวกเธอสักเท่าไรอีก… แล้วสองพี่น้องจะต้องเจออะไรอีกบ้าง คำตอบอยู่ในหนังนะครับ

และแล้วปริศนาก็ไขกระจ่างครับ รู้ซะทีว่าทำไมคะแนนมันดี ก็เพราะรสชาติของหนังอยู่ในขั้นไม่เลวน่ะสิครับ

จุดแรกที่ผมชื่นชอบคือการเดินเรื่องที่ค่อนข้างไวครับ เปิดมาก็เล่าๆๆ ไม่รอช้า ไม่อืดเอื่อย และยังแสดงบุคลิกของสองสาวได้อย่างชัดเจนด้วย จากนั้นก็มาถึงตอนเช้าสภาพบ้านเมืองดูน่ากลัวมากครับ คิดดูเงยหน้าขึ้นไปก็มีฝุ่นสีแดงกระจายอยู่แทนที่จะเป็นสีฟ้า ไหนจะเสื้อผ้ากองเกลื่อน แค่นี้ก็เรียกอารมณ์น่ากลัวได้แล้ว ไหนจะซอมบี้อีก แม้หนังจะทุนไม่สูง แต่ก็น่าปรบมือครับที่เนรมิตฉากเมืองไร้ชีวิตออกมาได้อย่างสมจริงทีเดียว อารมณ์ประมาณเดียวกับตอนดู 28 Days Later เลยล่ะครับ

และที่ชอบประการต่อมาคือ แม้หนังจะออกแนวน่ากลัว แต่ก็ไม่ลืมแทรกเรื่องฮาๆ ลงมาด้วย เช่น ตอนที่สองพี่น้องตั้งท่าจะไปช้อปปิ้งในห้างให้ได้หลังจากไม่ได้ไปมาหลายวัน (ก็น่าจะเป็นยังงั้นน่ะครับ) พอไปก็ช้อปเต็มที่ แล้วซาวน์แทร็กที่เปิดก็เข้ากับภาพมากครับ ประมาณว่า “เรื่องปกติของผู้หญิงค่ะ ที่ขาดการช้อปปิ้งไม่ได้ (แม้โลกจะดับ)” เข้าใจทำดีเหมือนกัน

ครับ ก็เป็นหนังแนวทำนายหายนะโลกแบบทุนไม่สูงนัก แต่ก็ทำได้ไม่เลว บรรยากาศใช้ได้ โครงเรื่องก็น่าติดตามดี แต่กระนั้นก็ยังมีอะไรขาดๆ ไปบ้าง อย่างซอมบี้ก็มีน้อยเกินไปครับ (ที่เป็นเรื่องเป็นราวจริงๆ แค่ตัวเดียวเอง) หรือความวุ่นวายอะไรต่างๆ ก็อาจจะน้อยเกินไป แต่ก็เข้าใจล่ะครับ ทุนไม่เยอะจะเนรมิตมากก็คงไม่ได้

บางทีตอนดูหนังนอกจากต้องรู้แนวหนัง ก็ยังต้องรู้ขนาดของคนทำด้วยครับ จะได้ทำใจได้ตอนมันมีอะไรพร่องๆ หรือเห่ยๆ ไปบ้าง

ดูเรื่อยๆ ไม่ผิดหวังครับ

สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)