มีอยู่ครั้งหนึ่ง Jamie Lee Curtis นางเอกหญิงเหล็กของวงการได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอถือเป็นผลงานที่อยากลืม เป็นงานที่เธอรู้สึกว่าแสดงได้แย่สุดขีดเท่าที่เคยแสดงมา… หนังเรื่องที่ว่ามีชื่อว่า Virus

ขนาดคนแสดงยังออกมายืดอกบอกว่าแย่ แล้วคนดูจะทำหน้ายังไงดีล่ะเนี่ย

Virus เป็นงานเขียนบทของ Chuck Pfarrer ที่เขียนไว้ตั้งแต่ต้นยุค 90 ตอนแรกที่ท่านคิดจะนำไปเสนอค่ายหนังเพื่อเอามาสร้าง แต่คิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ เนื่องมาจากตระหนักว่าสมัยนั้นวิทยาการเทคโนโลยียังไปไม่ถึงไหน Effect ไม่ทันสมัยเพียงพอที่จะเนรมิตตัวประหลาดในบทหนังได้ Pfarrer เลยจัดแจงเอาบทหนังมาปรับเป็นการ์ตูน Comic เขียนลงหนังสือการ์ตูนสังกัด Dark Horse

การตัดสินใจรอบแรกของ Pfarrer ถือว่าเดินหมากถูกต้อง เพราะการ์ตูน Virus ได้รับการต้อนรับจากนักอ่านเป็นอย่างดี เมื่อเวลาผ่านไป Pfarrer เองก็ได้คลุกคลีอยู่ในวงการภาพยนตร์ เลยเห็นความก้าวหน้าของเทคนิคพิเศษว่าได้ที่เหมาะสำหรับหนังของเขาแล้ว ก็เลยเริ่มต้นทำเป็นหนัง

เรื่องราวดัดแปลงจากการ์ตูนไปเล็กน้อย เพราะฉบับ Comic นั้นเหตุเกิดที่ศนย์วิจัยของจีน แต่กับหนังเริ่มต้นที่เรือของรัสเซียที่สื่อสารโดยตรงกับสถานีอวกาศเมียร์ ระหว่างการรับข้อมูลตามปกติ ก็เกิดมีพายุกระแสไฟฟ้าจากอวกาศแผ่ซ่านมาซัดเข้าสถานี ไอ้พายุที่ว่านี่ก็เหมือนมีชีวิต เพราะมันส่งตัวเองผ่านดาวเทียมลงมายังเรือรัสเซียลำที่ว่า …

จากนั้นหนังก็ตัดเรื่องมาที่เรืออีกลำของกัปตันจอมโลภมาก โรเบิร์ต เอเวอร์ตัน (Donald Sutherland) ที่เพิ่งหัวเสียจากพายุไต้ฝุ่นที่ทำเอาสินค้าที่พวกเขาขนมาพากันลงทะเลไปหมด ลองว่าเป็นแบบนี้คงจะโดนเรียกค่าเสียหายจมหู เงินก็ไม่ได้ งานก็ไม่ได้ทำต่อ กัปตันกับลูกเรืออย่าง คิต ฟอสเตอร์ (Jamie Lee Curtis) และ สตีฟ เบคเกอร์ (William Baldwin) ก็มืดแปดด้านพอๆ กัน

ประจวบเหมาะกับพวกลูกเรือลอยลำไปเจอเรือรัสเซียเข้าพอดี ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเรือร้างไปแล้ว เอเวอร์ตันเลยหัวใสคิดจะขึ้นไปยึดเรือเอาไปขึ้นฝั่งเพื่อขึ้นเงิน

เอเวอร์ตันกับพวกเลยปีนขึ้นไปบนเรือครับ เรือนั่นก็ดูไร้ผู้คน ไร้สิ่งมีชีวิตใดๆ แล้วพอเดินเล่นกันไปซักพักก็เจอดีครับ เมื่อสายพันธุ์มรณะจากต่างดาวลงมายึดเรือ สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นจากซากศพมนุษย์ ประกอบเข้ากับโลหะวัตถุ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตสุดสยองกระหายเลือด และไล่ฆ่าพวกเอเวอร์ตัน … งานนี้ก็ซวยสิครับ แทนที่จะได้เงินดันต้องมาวิ่งหนีเอาตัวรอดแทน

หนังเอามันส์ได้สบายๆ เลยครับ เรื่อง Effect ก็เนี๊ยบใช้ได้ จุดที่ผมชอบมากในหนังเรื่องนี้คือ Effect ที่เข้าท่าครับ พวกสิ่งมีชีวิตที่ว่าก็ทำได้ขยะแขยงมาก คิดดูสิครับตัวอะไรอ้ะ หัวปเนคน แต่ด้านล่างเป็นอวัยวะของคนประกอบเข้ากันมีสายไฟโยงอีก แหยงมากครับแหยงจริงๆ

แต่นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรให้ประทับใจ เหมาะแก่การดูเอามันส์เท่านั้นเองครับ ยิงกันล่ากัน มีฆ่าโหดๆ กันพอสมควร ระเบิดอีกหน่อยพอหอมปากหอมคอ สไตล์หนังและเรื่องราวถือว่ามาทางเดียวกับหนัง Aliens ที่ James Cameron กำกับเอามากๆ

การคล้ายที่ว่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ก็คนกำกับคือ John Bruno มือ Special Effects คู่บุญของ Cameron ที่ร่วมงานมาตั้งแต่ The Abyss ตามด้วย T2, True Lies และ Titanic ด้วย เรื่องเทคนิคพิเศษเลยเฉียบมาก

แต่เหมือน Bruno แกจะลอกมาเฉพาะภาพน่ะครับ มีแต่แอ็กชัน ส่วนวิญญาณและความลึกของเรื่องราวต้องบอกว่าคนละชั้น ใน Aliens นั้นมีเบื้องลึกตัวละครหลักในมุมที่น่าสนใจครับ อย่างเรื่องของริปลี่ย์และนิวต์ เด็กน้อยหนึ่งเดียวที่รอดชีวิตอยู่บนดาวเอเลี่ยนที่ผูกพันกันดั่งแม่ลูก อันนำมาสู่เรื่องราวสุดมันส์ในช่วงท้าย แต่กับ Virus คนทำบรรจงยัดฉากบู๊เข้าลูกเดียว

ภาพเลยคล้าย แต่ความเยี่ยมต่างกันคนละชั้นช่วงเลยน่ะครับ

ด้านนักแสดงก็มาแบบรับค่าตัวแล้วกลับ ไม่แปลกใจที่ Curtis จะบอกว่าการแสดงในเรื่องทำเธอไม่ปลื้มอย่างแรงเพราะเธอแทบไม่มีบท ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ทำท่าตกใจ ทำหน้าบึ้งแล้วก็วิ่งแค่นั้น คาดว่าพอเล่นหนังเรื่องนี้จบคุณเธอคงล้ำขึ้นเยอะ ส่วนดาราฝีมือพระกาฬ Sutherland ว่าไปแกเด่นสุดในเรื่องแล้วล่ะครับ แววตาท่าทางเหี้ยม อำมหิตเห็นแก่ตัวเกินร้อย บทแบบนี้ไว้ใจแกได้ ส่วนดารานอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึง แม้แต่ Baldwin ก็เถอะ

สรุปคือถ้าท่นไม่คิดมาก อยากดูหนังเอามันส์ไล่ฆ่ากันทั้งเรื่อง ตัวประหลาดมาทำร้ายคนก็เรื่องนี้แหละครับ พอไหวพอเหมาะ ไม่ได้ดีจนต้องยกนิ้ว แต่แก้ขัดได้สำหรับคนที่ว้อนท์จะดูหนังทำนองนี้มากๆ อย่างน้อยเทคนิคพิเศษก็ไม่กระป๋องล่ะครับ ทำใจหน่อยแล้วกัน ถ้าอยากดูแนวนี้ที่เด็ดๆ ก็ขอให้ไปเอา Aliens มาดูอีกรอบแล้วกันครับ เหนือชั้นกว่าเยอะ หรือ Deep Rising ก็ได้ คล้ายกัน แต่อันนั้นเข้าท่ากว่า

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5/10)