รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

The Pink Panther (1963) สารวัตรปืนฝืด

MV5BMjAxNjUxNDM3MF5BMl5BanBnXkFtZTYwNTAwNzE5._V1_

สำหรับ The Pink Panther นี้ก็ถือกำเนิดจากการสร้างสรรค์ของ Maurice Richlin และ Blake Edwards ที่ร่วมเขียนเรื่องราวขึ้นมานะครับ เนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับเซอร์ ชาร์ลส ลิตตัน (David Niven) บุคคลระดับสูงที่คนทั่วไปต่างรู้จัก แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาก็คือ จอมโจรแฟนธ่อม หัวขโมยอันดับชื่อก้องที่เมื่อเล็งของชิ้นไหนแล้วต้องได้ทุกครั้งไป

และล่าสุดสิ่งของที่เขาหมายตาไว้ก็คือ เพชร Pink Panther (เป็นเพชรที่มีตำหนิเป็นรูปเสือสีชมพูอยู่ข้างใน) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของเจ้าหญิงดาล่า (Claudia Cardinale) ผู้เลอโฉม

ทีนี้เซอร์ชาร์ลสก็เลยตีสนิทกับเจ้าหญิงครับ เพื่อหาทางวางแผนขโมยเพชรที่ว่านี้

ขณะเดียวกันสารวัตรจ๊าค คลูโซ (Peter Sellers) ซึ่งคอยตามล่าแฟนธ่อมก็มั่นใจว่ามันจะต้องขโมยเพชรเม็ดนี้แน่ๆ เขาก็เลยคอยจับตาดูเพชรเม็ดนี้อยู่ตลอดเช่นกัน

แล้วแฟนธ่อมจะขโมยมันไปได้มั้ย หรือเขาจะเสร็จคลูโซ อันนี้ต้องลองติดตามดูในเรื่องครับ

จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะหนังตลกนะครับ ซึ่งมันก็ถูกเพราะหนังภาคต่อจากเรื่องนี้มันเป็นแนวฮาทุกเรื่องเลย ก็จะมีแต่ตอนแรกนี่แหละที่มันไม่ได้เป็นเจตนาฮาโดยตรง คือเท่าที่ดูน่ะนะครับ หนังมันจะเป็นแนวขโมยที่มีเนื้อเรื่องโทนเบาๆ มากกว่าครับ

ที่บอกนี่ก็คือไม่อยากให้หวังว่ามันจะฮากลิ้งครับ จำได้รอบแรกที่ผมดูผมก็หวังมากเหมือนกันว่ามันน่าจะตลกสุดๆ แต่พอดูๆ ไปก็ไม่เชิงอย่างนั้นน่ะครับ มันเป็นโทนหนังเบาๆ อย่างที่ผมว่านั่นแหละ ส่วนไอ้ความตลกนั้นมันจะมามีจริงๆ เอาช่วงครึ่งหลังมากกว่า

ดังนั้นก็ทราบตามนี้ด้วยนะครับผม ต้องบอกไว้ก่อน เพราะเพื่อนผมที่เคยดูก็มีมาบ่นเหมือนกันว่าแนะหนังอะไรให้ดูฟะ ไม่ได้ตลกอะไรเลย

แล้วหนังมีอะไรให้ … ก็ช่วงแรกน่ะครับเป็นการเล่าถึงตัวละครต่างๆ ตั้งแต่เซอร์ชาร์ลสหรือแฟนธ่อม, สารวัตรคลูโซ, เจ้าหญิงดาล่า, จอร์จ ลิตตัน (Robert Wagner) หลานชายจอมกะล่อนของเซอร์ชาร์ลส และ ซีโมน (Capucine) ภรรยาของสารวัตรคลูโซ ทำให้ช่วงแรกเนื้อหามันจะไม่ค่อยไปไหนครับ แต่ด้วยพลังดาราก็เลยทำให้หนังน่าติดตามอยู่

พอมาครึ่งหลังหนังเริ่มฮาแบบเต็มที่ครับ ไอ้ตรงการขโมยเพชรนั่นแหละ เหตุการณ์วุ่นวายบ้าบอแบบจับแพะชนแกะกันอุตลุดไปเลย ซึ่งไอ้ช่วงนี้นี่แหละที่ฮาสุดๆ

ดังนั้นตรงแนวหนังผมเลยใช้คำว่าเบาสมองไงครับ มันไม่ได้ฮาแตกแต่แรกเริ่ม แต่จะว่าไปหนังตลกสมัยก่อนประมาณนี้ก็ถือว่าตลกแล้วล่ะครับ มันไม่ได้กระหน่ำมุขระดับ Scary Movie หรือหนังฮาแบบที่เราคุ้นเคยน่ะครับ เป็นหนังสนุกซะมากกว่า

แต่ที่ต้องยอมรับคือดาราที่เลือกมานั้นลงตัวหมด ลุง David Niven แกเก่งครับเล่นเป็นเซอร์ชาร์ลสได้อย่างน่าเชื่อ คือดูดีน่ะครับและมีสมอง แต่รายที่เด่นมากก็หนีไม่พ้น Peter Sellers นี่แหละ แกเป็นคลูโซได้เยี่ยมสุดๆ หนังฮาก็เนื่องมาจากเขานี่แหละครับ มุขตลกท่าทาง และความเปิ่นเซ่ออันเป็นเอกลักษณ์ จนไม่น่าแปลกใจครับที่ตัวละครนี้จะดังสุดๆ ขี้นมาผิดจากที่ผู้สร้างคาดเอาไว้

คืออย่างนี้ครับ ตอนแรกนั้น หนัง The Pink Panther ทำขึ้นมาโดยมีตัวละครเซอร์ชาร์ลส ลิตตันหรือแฟนธ่อมเป็นตัวนำ และกะจะสร้างตอนต่อเรื่องราวของแฟนธ่อมเมื่อหนังประสบความสำเร็จ

แล้วหนังก็ดังตามคาดหมายครับ แต่ไปๆ มาๆ สารวัตรคลูโซดันเป็นที่จดจำมากกว่า ผู้ชมส่วนมากก็ประทับใจในการแสดงเปิ่นๆ ของ Sellers อีกด้วย ทำให้พอมีการทำตอนต่อ มันเลยกลายเป็นเรื่องของคลูโซไปแทน

ถือเป็นโชคดีของ Sellers ที่ได้บทนี้และถือเป็นโชคดีของทีมงานที่ได้ Sellers มารับบทครับ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ได้ดีกันถ้วนหน้า และ Sellers ก็ทำให้คลูโซมีเอกลักษณ์ฮาๆ ได้ ซึ่งผมว่าดีกว่าตัวเลือกแรกอย่าง Peter Ustinov อีกนะครับ (Ustinov รับบทนี้ในตอนแรกครับ แต่มาเลิกสัญญาก่อนหนังจะทำได้แค่ไม่กี่อาทิตย์ ทำให้ผู้สร้างทำการฟ้องUstinov แต่พอหนังออกมาดังและทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าบทนี้เหมาะกับ Sellers มากกว่าใคร เลยมีการพูดกันตลกๆ ในวงการว่า “คุณจะฟ้องเขาทำไม ในเมื่อคุณไม่เสียหายอะไรซักอย่าง”

ครับ หนังเลยออกมาโทนสบายๆ ช่วงแรกเป็นแนวเบาๆ ส่วนช่วงหลังนี่แหละที่บอกได้เต็มปากว่าเป็นหนังฮา ไม่ว่าจะยังไงผู้กำกับ Blake Edwards ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีครับ ทั้งเขียนบทและกำกับเรื่องราวออกมา อีกทั้งยังทำให้ตัวการ์ตูนเสือสีชมพู หรือ Pink Panther โด่งดังขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งเจ้าพิงค์ แพนเธอร์นี้ก็ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังเรื่องนี้นี่เองล่ะครับ ทีนี้พอหนังดัง ตัวละครคลูโซก็ดัง และเจ้าเสือชมพูก็ดังตามมาติดๆ ในปี 1964 กับการ์ตูนขนาดสั้นที่ชื่อว่า The Pink Phink ถือกำเนิดออกมา อันเป็นการ์ตูนตอนแรกของเจ้าพิงค์ แพนเธอร์

ซึ่ง Edwards เองก็คงคาดไม่ถึงครับว่าเจ้าตัวนี้มันจะดังฮิตติดอันดับนานจนถึงปัจจุบัน

เอาล่ะนะครับ สำหรับตอนแรกของหนังชุดนี้ก็ดูสนุกแบบเพลินๆ ไม่ได้ฮาแตก แต่ก็ดูได้สนุกๆ ต้องมาตอนท้ายนี่แหละที่ฮาสุดๆ ทั้งตอนงานแฟนซีเรื่อยไปจนถึงตอนขับรถไล่ล่า แล้วก็ชุดที่เซอร์ชาร์ลสใส่น่ะนะครับ ไอ้พวกนี้นี่แหละที่ทำให้บอกได้เต็มปากว่านี่เป็นหนังตลกจริงๆ ผมดูอีกรอบเมื่อกี้ยังฮาเลยครับ ถือว่าบ้าเอาการสำหรับหนังเก่าๆ น่ะ

ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนังตลกสไตล์เก่าๆ หรืออยากรู้จุดกำเนิดของทั้งคลูโซและเสือสีชมพูนะครับ ฝีมือการแสดงของ Niven และ Sellers ก็เป็นจุดที่เด่นมากครับ โดยเฉพาะ Sellers ที่ผมเชื่อว่าคุณต้องฮากับท่าทางของเขาอย่างน้อยก็ 5 ท่าล่ะฮะ ยิ่งไอ้มุขยืนเต๊ะแล้วล้มนี่พี่แกทำได้เนียนจริงๆ

แต่ผมก็ชอบครับ หนังมันคุ้มตรงการแสดงของ 2 ดารานำกับดนตรีระดับสุดยอดของ Henry Mancini ที่ผมขอยกให้ติดอันดับ Top 5 ตลอดกาลครับ ไม่ใช่เฉพาะเพลงธีมเท่านั้น แต่เพลงอื่นๆ ก็คลาสสิคพอกันครับ ต้องลองฟังดู เนี่ยฮะ แต่การแสดงกับดนตรีนี่ผมก็ว่าคุ้มมากๆ แล้วล่ะ

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.