ภาค 2 กับเรื่องราวที่ต่อเนื่องจากคราวก่อน ซึ่งโลกจากยุคอดีตได้ส่ง เบรนท์ (James Franciscus) นักบินอวกาศอีกรายให้ออกมาตามหาเทย์เลอร์ (Charlton Heston) ที่หายไปให้ภาคแรก เมื่อเขามาถึงดาวแห่งนี้ก็พบว่าเทย์เลอร์หายตัวไปอย่างลึกลับหลังเหตุการณ์ ในภาคที่แล้ว เบรนท์เลยต้องสืบหาความจริงว่าเทย์เลอร์หายไปไหน อันนำมาสู่การผจญภัยไปยังเมืองลึกลับที่อยู่ใต้ดาวดวงนั้น ซึ่งมีอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งอาศัยอยู่ และเผ่าพันธุ์นี้ยังมีระเบิดมรณะที่สามารถทลายดาวได้ทั้งดวงอีกด้วย ก็ต้องดูกันต่อไปล่ะครับว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร เบรนท์จะพบเทย์เลอร์หรือไม่ และชะตากรรมของดาวทั้งดวงจะมีบทสรุปอย่างไร
กับภาคนี้ผมว่าสนุกดีนะครับ ผมออกจะชอบมากกว่าตอนแรกด้วย แม้ช่วงต้นๆ จะอืดบ้าง แต่พอเบรนท์ค้นพบเมืองใต้นครวานรแล้วหนังก็น่าติดตามทันที เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรรอเราอยู่ใต้นั้น จะเจอตัวอะไรมั้ย หรือจะเห็นอะไรอีกก็จัดว่าเรื่องจินตนาการนี่โดดเด่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรใต้เมืองวานรนั่น ซึ่งผมมันเป็นคนประเภท ชอบครับ ชอบมาก หนังที่มีการเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่เคยไปมาก่อนน่ะ มันลุ้นดีครับ ว่าเราจะเจอกับอะไรบ้าง เรื่องนี้ก็โอเคครับ ตอนจบก็เป็นอะไรที่น่าสนใจทีเดียว
จุดที่ผมชอบมากอย่างหนึ่งคือ ภาพฉากและบรรยากาศเมืองใต้นครวานรน่ะนะครับ โอ้ ขืนพูดไปสปอยล์แน่เลยผม เอางี้ดีกว่า
**********สปอยล์นะครับผม ไม่อยากทราบข้ามไปอ่านข้างล่างนะครับ****
จากภาคแรกนั้นหนังบอกแล้วว่าที่แห่งนี้คือโลกมนุษย์ครับ ไม่ใช่ต่างดาวหรอก มันคือโลกที่เราอยู่นี่แหละ เป็นอนาคตอีก 2000 ปีข้างหน้า ซึ่งมนุษย์เกิดทำสงครามกันจนตายหมดและก็ยังเอาระเบิดนิวเคลียร์มาทำลายล้าง กันจนในที่สุดวานรก็ก่อการยึดครองโลกแทน
ทีนี้ ฉากใต้เมืองวานรที่ผมว่านั่นมันก็คือฉากซากปรักหักพังของเมืองในโลกเราปนั่น เอง เช่นซากรถไฟใต้ดิน ซากห้องสมุด มันเป็นภาพที่ทั้งสวยงามน่าสนใจและน่ากลัวไปในเวลาเดียวกันครับ ที่ว่าสวยงามก็คือ ทีมงานสร้างฉากออกมาได้ดีครับ ให้อารมณ์อนาคตได้ดีและยังให้อารมณ์หนังผจญภัยด้วย ประมาณว่ามีภาพซากสถานีรถไฟใต้ดินแล้วก็มีเถาวัลย์พาดอยู่เพียบอะไรอย่าง เนี้ย ดูแล้วสวยดียังไงก็ไม่รู้ แล้วมันให้อารมณ์ลุ้นว่าลึกลงไปใต้นั้นจะมีอะไรรอเราอยู่ (นี่แหละครับอารมณ์หนังผจญภัยล่ะ)
แต่ที่บอกว่าน่ากลัวก็เพราะ … นั่นคือโลกเราอ้ะครับ คิดดูครั้งหนึ่งมันเคยมีคนเดินอยู่เต็มไปหมด แต่ในหนังมันกลายเป็นอดีตไปแล้วน่ะ เฮ่อ
นี่แหละครับ ฉากพวกนี้ผมว่าออกแบบมาดีและเป็นสีสันชั้นดีสำหรับหนังภาคนี้เลยล่ะครับ
*****************************************
สรุปว่าฉากใต้เมืองวานรนั้นทำได้ดีครับ ให้อารมณ์หนังผจญภัยดีมากเลยล่ะ
นัก แสดงนั้นก็ชุดเดิมครับ ส่วน Franciscus กับบทเบรนท์นั้นก็เรื่อยๆ น่ะ ไม่ได้เด่นอะไร ตอนแรกเขาจะให้ Burt Reynolds มาเล่นครับ ซึ่งผมว่า Reynolds น่าจะแสดงได้ดีกว่านี้นะฮะ ก็เอาเถอะ ส่วนวานรทั้งหลายก็แสดงโดยดาราเดิม ยกเว้นบทคอร์นีเลียสที่ภาคนี้ได้ David Watson มาเล่นแทน Roddy McDowall สาเหตุที่ McDowall ไม่ไ่ด้ตามมาเล่นในภาคนี้ก็เพราะพี่แกติดงานหนังเรื่องอื่นน่ะครับ อีกคนที่ได้เล่นหนังชุดนี้แทบทุกภาคก็คือ Natalie Trundy ในภาคนี้รับบทเป็นอัลบิน่า ซึ่งในภาคอื่นๆ ต่อจากนี้เธอก็ร่วมแสดงทุกภาคครับ แต่บทก็จะต่างกันไปทุกภาคเช่นกัน
อ้อ และอีกอย่าง ผมล่ะชอบ Linda Harrison จังคับ คนที่มารับบทเป็นโนวา ตั้งแต่ภาคแรกนั่นน่ะแหละ ดูสวยน่ารักและเซ็กซี่จังเลยครับ อิอิอิอิ
เอาล่ะ แล้วเราก็มาว่ากันถึงเบื้องหลังงานสร้างภาคนี้กันหน่อยล่ะนะครับ ตอนแรกพอหนังภาคแรกดัง ก็มีการตั้งใจจะทำตอนต่อทันที โดย Pierre Boulle ผู้เขียนนิยายดั้งเดิมได้เขียนสคริปขึ้นว่าด้วยเรื่องราวหลังจากภาคแรก 14 ปี ซึ่งเทย์เลอร์จะต้องไปอยู่ท่ามกลางการต่อสู่ระหว่างเหล่าวานรและมนุษย์ผู้ ต้องการจะมีอิสระ แต่สคริปนี้ก็ไม่ได้รับเลือกมาทำเป็นหนังแต่อย่างใด
จากนั้นพอทุกอย่างลงตัวและทีมงานตกลงกับสคริปที่เราเห็นในหนังแล้ว ก็ได้เวลาเลือกผู้กำกับครับ ซึ่งตอนแรกคนที่มารับทำคือ Don Medford ผู้กำกับที่ดังจากงานหนังทีวีอย่าง The Twilight Zone, The Untouchables และ The Fugitive แต่พองบสร้างถูกลดลงเขาก็เลยเดินออกจากโปรเจคท์ทันที และ Ted Post ผู้กำกับหนังที่ดังพอกับผลงานเรื่อง Hang ‘Em High ที่แสดงนำโดยปู่ Clint Eastwood ก็ก้าวมากำกับแทน
สำหรับในตอนจบ นั้น ตอนแรกก็มีสองแบบครับ แบบแรกคือเรื่องราวจะไปสิ้นสุดตรงที่เบรนท์, เทย์เลอร์ และโนวาร่วมมือกันปลดปล่อยมนุษย์ที่ตกเป็นทาสออกจากกรง แล้วสันดิก็เกิดขึ้น ฉากสุดท้ายจะมาจบลงตรงที่มนุษย์และวานรได้อยู่ด้วยกันและเรียนหนังสือด้วย กันอย่างสนุกสนาน ก็จัดเป็นตอนจบแบบแอ้ปปี้ครับ แต่ดูเหมือนทีมงานจะไม่อยากให้มันจบแบบนั้น เลยเปลี่ยนเป็นอีกแบบ ซึ่งก็เป็นแบบในหนังนี่แหละ (คนละโทนกันเลยครับ)
โดยส่วนตัว ผมยังเห็นว่ามันสนุกและน่าติดตามตามสไตล์ไซไฟอยู่ครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
หมวดหมู่:Action, Adventure, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Sci-Fi