Action

Fantastic Four (2005) แฟนตาสติคโฟร์ สี่พลังคนกายสิทธิ์

Fantastic-Four-2005

เรื่องนี้บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้มีความกระตือรือร้นในการดูซักเท่าไหร่นะครับ เพราะมันเป็นหนังแนวฮีโร่น่ะ เมื่อก่อนผมตื่นเต้นที่จะดูนะครับ แต่มาระยะหลังๆ นี่ชักจะตายด้านแล้ว ยิ่งได้เจอกับ Spider-Man ทั้ง 2 ภาค และ Batman Begins ไปแล้วเนี่ย ก็อดคิดไม่ได้ล่ะครับว่ามันไม่น่าจะมีหนังจากการ์ตูนเรื่องไหนสร้างได้เฉียบ ขาดกว่านั้นอีกแล้ว

และผมก็คิดถูกครับ

ที่บอกแบบนี้ไม่ได้แปล ว่า F4 จะไม่ดีนะครับ (ขอเรียกหยั่งงี้ละกันนะครับ) มันทำออกมาได้สนุกพอสมควร เพียงแต่มันก็ออกมาเรื่อยๆ น่ะครับ สนุกแบบเพลินๆ ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไร แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับหนังที่สร้างจากการ์ตูน

F4 นั้นนะครับกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อพฤศจิกายนปี 1961 จากการสร้างสรรค์ของ Stan Lee และ Jack Kirby ซึ่งนี่จัดเป็นการ์ตูนเรื่องแรกของยุคปฏิวัติ Marvel Comics และเป็นเรื่องแรกที่ทั้งสองร่วมกันสรรค์สร้างขึ้น ซึ่งที่บอกว่าเป็นยุคปฏิวัติก็เพราะว่า นี่ถือเป็นการ์ตูนเรื่องแรกครับที่ทำให้ฮีโร่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น คือตามปกติเราจะเห็นพวกฮีโร่เป็นยอดมนุษย์โคตรเพอร์เฟ็กต์จริงมั้ยครับ แต่แล้ว Stan Lee ก็เล็งเห็นว่าไอ้อะไรแบบนั้นมันซ้ำซากซะเหลือเกินครับ เลยจัดการสร้างการ์ตูนแนวฮีโร่แบบที่ฮีโร่ก็มีความเป็นคน มีปัญหา มีเรื่องในชีวิตให้เครียดเหมือนกัน

และเรื่อง F4 นี้คือผลงานชิ้นแรกของยุคนั้นน่ะเองครับและแน่อนว่าการ์ตูนชุดนั้นดังสุดๆ ขึ้นแท่นตัวการ์ตูนคลาสสิคตลอดกาลไปแล้วล่ะฮะ

ส่วนเนื้อหาในหนังก็ไม่แตกต่างจากการ์ตูนหรอกครับ เปิดมาก็แนะนำให้เราได้รู้จักกับ ดร.รี๊ด ริชาร์ดส (Ioan Gruffudd), ซู สตอร์ม (Jessica Alba) อดีตคนรักของรี๊ด, จอห์นนี่ สตอร์ม (Chris Evans) น้องชายจอมเฮี้ยวของซู, เบน กริมม์ (Michael Chiklis) เพื่อนซี้ชนิดตายแทนกันได้ของรี๊ด และอีกคนที่ได้ขึ้นไปด้วยคือ วิคเตอรื วอน ดูม (Julian McMahon) ทั้งหมดได้เดินทางไปยังสถานีอวกาศเพื่อทดลองเกี่ยวกับรังสีที่จะช่วยเพิ่มอายุให้มนุษย์ได้ แต่ทั้งหมดดันโดนรังสีลึกลับกระแทกเข้าเต็มเปาจนสลบไปตามๆ กัน

ต่อมาเมื่อถึงพื้นโลก พวกเขาทั้ง 4 ก็เริ่มพบกับความเปลี่ยนแปลงตามร่างกายครับ ดร.รี๊ด กลายเป็นมนุษย์ยางยืด (มิสเตอร์แฟนแทสติค), ซูกลายเป็นสาวล่องหน, จอห์นนี่กลายเป็นมนุษย์เพลิง และเบนกลายมาเป็นมนุษย์อิฐ ตอนแรกทั้งสี่ก็มึนกบาลครับ เพราะไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้เท่าไหร่ จนอดมีเรื่องตีกันบ่อยๆ ไม่ได้ แต่แล้วเมื่อศัตรูวายร้ายอย่าง ดร.ดูม หรือ วิคเตอร์ที่ได้รับพลังเช่นกันแต่กลับคิดเรื่องชั่วๆ ในการทำลายล้าง ทำให้ F4 ต้องทำการต่อต้านศัตรูร้ายรายนี้ให้หมดฤทธิ์ลงไป เรื่องเป็นไง ไปดูต่อกันครับ

ครับ อย่างที่ผมบอกไปแล้ว นี่เป็นหนังแนวแอ๊คชั่นฮีโรที่ไม่ได้สุดยอดเท่า Spider-Man หรือ X-Men แต่ผลที่ออกมาก็นับว่าโอเคน่ะครับ ดูเอาความเพลิดเพลินเป็นหลัก เนื้อเรื่องก็เดินไปเรื่อยๆ ไมไ่ด้เข้มข้นอะไร ฉากต่อสู้ก็ถือว่าดีครับ แต่ช่วงท้ายตอนตีกับดูมนั้นมันจบง่ายไปหน่อย (แต่ก็พอเข้าใจครับว่าทีมงานคงอยากเก็บไว้ทำภาคต่อมากกว่าน่ะ)

แต่ที่ผมชอบมากก็คือ หนังยังคงโครงหลักๆ ของเนื้อเรื่องไว้ได้ดีพอควร นั่นคือ การตีกันของทั้งสี่คนครับ ซึ่งใครเป็นแฟนการ์ตูนชุดนี้น่าจะทราบดีว่า ในฉบับการ์ตูนนั้นทั้ง 4 คนนี่ตีกันบ่อยสุดๆ มีความเห็นไม่ตรงกันบ้างล่ะ มีเรื่องทะเลาะกันบ้างล่ะ แล้วปัญหาเรื่องชีวิตรักนี่ก็ถือว่าขาดไม่ได้เลยล่ะ โดยเฉพาะที่เกิดกับเบน กริมม์ และตัวพี่เบนนี่ยังมีปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือการที่คนมักชอบมองเป็นตัวประหลาด แต่หนังก็ยังไม่ได้เล่นกับเรื่องนี้ตรงๆ เท่าไหร่ คงเก็บไว้เล่นภาคหน้ามั้งครับ

ก็ถ้าพูดถึงจุดนี้ นับว่าดีในระดับหนึ่งครับ คือมันยังไม่เจ๋งเท่า Spider-Man แต่ก็จัดว่าดีน่ะครับ

ด้านดารา ผมว่าก็แสดงได้ดีหมดครับ กับบท ดร.รี๊ดนั้น ตอนแรกเขาจะให้ George Clooney หรือไม่ก็ Brendan Fraser มาเล่นครับ แต่หวยมาลงที่ Gruffudd (คงเป็นเพราะเรื่องค่าตัวน่ะ) แต่เขาก็เล่นได้ดีนะครับ เพียงแต่มันอาจจะแหม่งๆ ไปบ้างที่ ดร.รี๊ดแกค่อนข้างจะเป๋อๆ นิดนึง ทั้งๆ ที่ของเดิมพี่แกโคตรจะเป็นหัวหน้าเลยอ้ะ แต่ก็ไม่เป็นไรคับ ผมว่าก็โอเคน่ะ

ส่วนบทซู ตอนแรกรายชื่อสาวๆ นี่เรียงกันมาเลยครับ ตั้งแต่ Elisha Cuthbert, Julia Stiles, Kate Bosworth, Rachel McAdams, Elizabeth Banks มาจนถึง KaDee Strickland แต่หวยก็มาลงที่ Alba ซึ่งมันก็โอเคนะครับ เพียงแต่ผมว่าบทนี้น่าจะดูมีอายุกว่านี้นิดนึงน่ะ แต่เธอก็แสดงได้ไม่เลว

แต่คนที่แสดงได้ดีนี่ต้องยกให้ Chiklis ในบทเบน กริมม์ครับ รายนี้ไม่มีใครมาขวางเลย รับไปเต็มๆ (ซึ่งเขาได้เล่นเพราะ Jennifer Garner ดันให้ครับ) แสดงได้ดีมากๆ เป้นหนึ่งในตัวที่อาภัพสุดๆ ครับ

อีกคนที่เล่นได้ยอดก็คือ Evans ในบทมนุษย์เพลิง พี่แกกวนตีนมากๆ ไม่ผิดหวังเลยคับ เป็นสีสันชั้นดีจริงๆ (ตอนแรกเขาจะให้ Paul Walker มาเล่นครับ แต่ผมว่าไม่ดีเท่าพี่คนนี้หรอก)

ส่วนดร.ดูมก็ได้ McMahon ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ แววตาโคตรสยองอ้ะ (รายนี้ก็แว่วๆ มาว่าจะได้พี่ Tim Robbins มารับบทครับ แต่ผมว่าพี่ McMahon ตัวกำยำเหมาะกับบทมากกว่าน่ะ)

สรุปว่านักแสดงดีครับ การเดินเรื่องก็สนุกสนานแบบไม่คิดมาก ดูเพลินๆ ซึ่งผู้กำกับ Tim Story ทำได้ไม่เลวครับ เพียงแต่แน่นอนล่ะว่าลูกเล่นหรือเนื้อหาบางอย่างมันยังขาดๆ เกินๆ อยู่บ้าง แต่ก็พอผ่านได้ครับ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจแต่อย่างใด ส่วนรายชื่อผู้กำกับที่เกือบจะมาทำเรื่องนี้ก็มี Chris Columbus (จาก Harry Potter 2 ภาคแรก), Raja Gosnell (จาก Scooby-Doo ทั้ง 2 ภาค), Peyton Reed (จาก Bring It On) และพี่ Steven Soderbergh แห่ง Ocean’s 11 และ 12 …บอกตรงๆ ผมอยากให้รายหลังทำมากๆ ครับ เพราะเห็นได้ชัดว่าการทำหนังที่มีหลายๆ ตัวละครนั้นพี่แกไม่ยั่นอยู่แล้ว และทำได้ดีด้วย แต่เอาเหอะ มันเป็นไปแล้วนี่ครับ

Effect นี่เนี๊ยบดีมากแล้วล่ะครับ ผมถือว่าสนใจนะ อยากเห็นมานานแล้วครับ ว่าถ้ามนุษย์เพลิงแกเป็นคนจริงๆ จะเป็นไง และผมก็ได้เห็น ถือเป็นความฝันตอนเด็กๆ ครับ และภาพที่ออกมา ผมถือว่าใช่เลย พี่มนุษย์อิฐก็เหมือนกัน

การขึ้นจอของหนังชุดนี้ จัดว่าสอบผ่านครับ อยู่ในระดับ อย่างน้อยมันก็ยังคงเค้าจากต้นฉบับอยู่ ตอนแรกผมภาวนาแค่ขอให้มีปมของแต่ละคนก็พอ และในหนังมันก็ถือว่ามีครับแต่ก็ไม่โดดเด่นนัก ก็ไม่รู้จะทำเงินไปมากน้อยแค่ไหน (แต่น่าจะเกิน 100 ล้านล่ะ) แต่กรุณาครับ อย่าคาดหวังให้มากเกินไป ไปดูแบบขำขำ อย่างผมเนี่ยแหละครับ คิดว่าดูเอาเพลินๆ อย่าเอาไปเทียบกับพวกพี่สไปดี้, X-Men หรือ Batman คิดซะว่าเอาเวลาไปดูหนังโม้ๆ อีกเรื่องแล้วกันครับ

อย่างน้อยก็โม้แล้วสนุกล่ะน่า สาระค่อยว่ากันทีหลัง

สองดาวกว่ายังได้อยู่ครับ

Star21(6.5/10)