เรื่องนี้เล่าง่ายครับ สรุปเลยคือถ้าท่านเป็นคอหนังแนวเชือด (Slasher) ก็สามารถดูเรื่องนี้ได้แบบเรื่อยๆ ขอเพียงไม่คาดหวังก็น่าจะพอได้อยู่
เรื่องนี้เล่าง่ายครับ สรุปเลยคือถ้าท่านเป็นคอหนังแนวเชือด (Slasher) ก็สามารถดูเรื่องนี้ได้แบบเรื่อยๆ ขอเพียงไม่คาดหวังก็น่าจะพอได้อยู่
ถ้าให้สรุปง่ายๆ เรื่องนี้ก็คือ Jumanji ฉบับฝรั่งเศสน่ะครับ เรื่องของครอบครัวหนึ่งที่ค่อนข้างจะห่างเหินกัน แล้วก็ดันโดนดูดเข้าไปในเกมกระดานว่าด้วยการตามล่ามนุษย์หมาป่า ซึ่งพวกเขาก็ต้องหาตัวคนที่เป็นหมาป่าให้ครบ ไม่งั้นพวกเขาจะต้องติดอยู่ในเกมไปเรื่อยๆ
นี่คือหนังตลกผสมดราม่าสไตล์ Feel Good ที่ดูแล้วสบายอกสบายใจ ทำให้เราอิ่มเอมและมีความสุขแบบกำลังดีครับ
เรื่องนี้ทำท่าว่าจะน่าสนใจอยู่ เพราะ Netflix ฉายไปสักพักแล้วย้อนกลับมาใส่พากย์ไทยนี่แสดงว่าหนังต้องมีของครับ พอดูแล้วก็พบว่าใช้ได้เลย
แล้วหนังก็มาถึงภาค 3 ครับ คราวนี้ ลีโน่ (Alban Lenoir) ก็หมายมั่นจะตอกฝาโลงคนร้ายที่หลบหนีไปอย่าง อเรสกี้ (Nicolas Duvauchelle) ให้มันหมดสิ้น อีกทั้งต้องรับมือกับ ผู้บัญชาการเรสซ์ (Gérard Lanvin) แห่งหน่วย ป.ป.ส. ที่หนนี้เปิดหน้าร้ายแบบเต็มตัว
อดีตทหารแกร่งซาร่า วูลฟ์ (Jeanne Goursaud) พาลูกไปทำธุระที่สถานกงสุล แต่ไปๆ มาๆ ลูกเธอกลับหายตัวไป การตามหาอย่างบ้าระห่ำจึงเริ่มต้น
มีคนร้ายวางระเบิดไว้บนรถด่วนชินคันเซ็น ขบวนฮายาบุสะหมายเลข 60 โดยมันขู่ว่าหากรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อไร ระเบิดจะถูกจุดชนวนทันที และมันยังยื่นข้อเรียกร้องเป็นเงินหนึ่งแสนล้านเยนเป็นค่าไถ่สำหรับชีวิตทุกคนบนรถด่วนขบวนนี้ – เรื่องที่เหลือไปดูกันต่อในหนังนะครับ
ผมจัดเรื่องนี้ไป 2 รอบ ไม่ใช่เพราะชอบอะไรมากมายหรอกครับ แต่ดูเพื่อเอามันส์ อยากดูกระบวนท่าหนึ่งรุมแสนเอาความสะใจ ซึ่งผมว่ามันก็ตอบโจทย์บันเทิงพอได้อยู่เหมือนกัน
อีกหนึ่งหนังที่ความยาวไม่มาก แต่ความระทึกความลุ้นจัดว่ามาเรื่อยๆ อาจไม่ถึงกับสุดยอดแต่ก็ไม่ผิดหวังครับ
ไม่ได้เขียนถึงซีรี่ส์ชุดนี้เสียนาน แต่ผมก็ยังตามดูอยู่นะครับ พอดีเพิ่งดูชุด 5 จบ เลยเอามาเขียนแบบรวมๆ กันซะเลย