ป้ายกำกับ: Netflix

Stranger Things Season 4 (2022) สเตรนเจอร์ ธิงส์ ปี 4

นั่งดู Stranger Things ปี 4 จบตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ลงสตรีม 2 ตอนสุดท้ายครับ ตอนแรกกะดูจบแล้วจะร่ายเลยแบบที่ทำทุกปี แต่พอดูจบปีนี้แล้วก็บังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมอยู่ในใจ จนผมตัดสินใจทิ้งความรู้สึกไว้หนึ่งคืน ให้ความคิดตกตะกอนเรียงตัวว่าตกลงแล้วผมรู้สึกอย่างไรกับซีซั่นนี้บ้าง

Man vs. Bee (2022)

สำหรับผมแล้ว การได้เห็นลุง Rowan Atkinson มาทำท่ายึกยักยึกยือพร้อมด้วยสารพัดพฤติกรรมเพี้ยน แค่นี้ก็ได้รอยยิ้ม+ความผ่อนคลายแล้วครับ

The Man from Toronto (2022) ชายจากโตรอนโต

The Man from Toronto หนังสไตล์คู่หูคู่ต่างครับ Kevin Hart กับ Woody Harrelson มาเจอกัน รายแรกก็พล่ามไม่หยุดฉูดไม่อยู่ ส่วนรายหลังก็ออกแนวขาดโหด ซัดชาวบ้านทั่วสารทิศ

Operation Christmas Drop (2020) ภารกิจของขวัญจากฟ้า

พูดก็พูดครับ เวลาเขียนถึงหนังสูตรสำเร็จโรแมนติกแบบนี้แล้วบางทีก็ไม่รู้จะเขียนอะไร เพราะสิ่งที่เขียนก็คงเป็นอะไรเดิมๆ แบบที่ผมเขียนเกี่ยวกับหนังสไตล์นี้มาแล้วไม่รู้กี่รอบ

Interceptor (2022) สงครามขีปนาวุธ

จะว่าไปแล้ว Interceptor ก็คือหนังที่เอาสูตรสำเร็จสไตล์ Die Hard มาปรุงใหม่อีกรอบครับ (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว) นั่นคือมีผู้ก่อการร้ายอะไรสักอย่าง บุกยึดอะไรสักอย่าง เพื่อทำอะไรสักอย่าง (ที่ไม่เป็นผลดีต่อผู้คน) แล้วก็จะต้องมีตัวเอกเก่งๆ สักคนหาทางทำอะไรสักอย่าง เพื่อต่อสู้ขัดขวางไม่ให้พวกมันทำได้ดั่งใจ

A Perfect Pairing (2022) คู่นี้… คือเพอร์เฟค

A Perfect Pairing ถือเป็นหนังรักโรแมนติกที่ดูได้เพลินๆ ดีครับ รสชาติกลมกล่อมพอเหมาะ อาจไม่ได้ยอดเยี่ยมมากมาย แต่จัดว่าตอบโจทย์สำหรับหนังแนวนี้ได้ดีโอเคพอสมควร

Rescued by Ruby (2022) รูบี้มาช่วยแล้ว

รู้ไหมครับว่าทุกครั้งเมื่อบทความผมมีคำว่า “นี่คืองานกำกับที่ดีที่สุดของ…” ผมจะรู้สึกดีทุกครั้ง เพราะมันแปลว่าผมเจอหนังเด็ดๆ ของผู้กำกับคนนั้นแล้ว และผู้กำกับคนนั้นก็ได้สำแดงฝีมือฝากไว้ในวงการแล้ว

Rurouni Kenshin: The Final (2021) รูโรนิ เคนชิน ซามูไรพเนจร: ปัจฉิมบท

ฮิมุระ เคนชิน (Takeru Satoh) และผองเพื่อนกลับมาอีกครั้งใน Rurouni Kenshin: The Final ที่ถือเป็นภาคสรุปเรื่องราวการผจญภัยของมือพิฆาตบัตโตไซครับ

The Pirates: The Last Royal Treasure (2022) ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์

สำหรับผมการดู The Pirates: The Last Royal Treasure มันได้อารมณ์ 2 in 1 ครับ นั่นคือ ครึ่งแรกออกแนวเรื่อยๆ ครั้นพอถึงครึ่งหลังค่อยรู้สึกว่าสนุกเหมือนกันแฮะ