ก่อนดูนี่ก็แอบคิดลบกับหนังเหมือนกันครับ ประมาณว่ามาแล้วอีกแล้ว หนังเกรดรองพะยี่ห้อแอ็คชั่น ก็คิดเหมือนกันว่าคงจะอีหรอบเดียวกับอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอดูไปดูมา อ้าวเฮ้ย ใช้ได้อยู่นั่น
ก่อนดูนี่ก็แอบคิดลบกับหนังเหมือนกันครับ ประมาณว่ามาแล้วอีกแล้ว หนังเกรดรองพะยี่ห้อแอ็คชั่น ก็คิดเหมือนกันว่าคงจะอีหรอบเดียวกับอีกหลายๆ เรื่อง แต่พอดูไปดูมา อ้าวเฮ้ย ใช้ได้อยู่นั่น
เจเรมี โคลแมน (Josh Duhamel) นักดับเพลิงที่เป็นพยานในคดีฆาตกรรม เขาเห็นชายชื่อ เดวิด ฮาแกน (Vincent D’Onofrio) ลงมือสังหารคนอย่างโหดเหี้ยม และพอดีที่เดวิดคือคนที่ทางการต้องการตัว และเจเรมีก็ได้รับการคุ้มกันให้เป็นพยาน แต่เมื่ออิทธิพลของเดวิดมีมากกว่าที่คิด เลยทำให้เจเรมีต้องหาทางเอาตัวรอดและสู้กลับเพื่อหยุดยั้งความโหดของเดวิดให้ได้
เรื่องนี้หมายมั่นดูแบบเอามันส์และเอาฮาครับ ซึ่งหนังก็ตอบโจทย์ตามนั้นนะ ดังนั้นใครอยากดูหนังแอ็คชั่นเบาๆ แบบไม่คิดมากก็จัดได้เลยครับเรื่องนี้
สารภาพตามตรงว่าไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังชุดนี้ครับ คือก็ตามดูทุกภาคนั่นแหละ แต่อาจไม่ได้ถูกจริตโดนใจอะไรขนาดนั้น ชื่อหุ่นในเรื่องก็จำได้แค่ อ็อปติมัส, บัมเบิลบี แล้วก็เมกาตรอนเท่านั้น (ยอมรับว่างงทุกทีเวลาหุ่นหลายๆ ตัวมาตีกัน ไม่รู้ใครเป็นใคร)
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมหลุดปากออกมาระหว่างดูเลยครับว่า “อะไรของมันกันเนี่ย?”
Safe Haven คืออีกหนึ่งหนังที่ดัดแปลงจากงานของ Nicholas Sparks เจ้าพ่อนิยายโรแมนติกที่คอแนวนี้น่าจะเคยผ่านการอ่านงานของเขากันมาแล้ว
ดูแบบไม่คิดมาก แล้วก็เพลินแบบไม่คาดคิดครับสำหรับหนังเรื่องนี้ ซึ่งรีเมคมาจากซีรี่ส์ฮิตชื่อเดียวกันนี้เมื่อยุค 70 ครับ เคยเอามาฉายบ้านเราด้วยในชื่อ “ฉลามบก” นี่แหละ
เบธ (Kristen Bell) สาวสวยน่ารักที่ยังไม่มีโชคในเรื่องความรักกับเขาสักที จนกระทั่งเธอต้องไปทำธุระที่กรุงโรม และมีโอกาสได้ลองโยนเหรียญในบ่ออธิษฐานที่ตำนานกล่าวว่าบ่อน้ำแห่งนี้อธิษฐานอะไรก็จะได้ตามใจปรารถนา เบธเลยอธิษฐานไปเล่นๆ ให้คนมีมารัก ที่นี้ล่ะครับมีหนุ่มๆ (และแก่ๆ) หันมาหลงรักเธอแบบล้อมหน้าล้อมหลังทีเดียว และหนึ่งในนั้นก็มีหนุ่มทรงเสน่ห์นามว่า นิค (Josh Duhamel) เข้ามาข้องแวะเธอด้วย
ภาคก่อนถือว่าทำเอาใจคอแอ็กชันให้เพลิดเพลินแบบสาแก่ใจ พอมาภาคนี้ทีมงานก็มีข่าวออกมาตั้งแต่ตอนสร้างครับ หลังจากโดนแฟนๆ ส่วนหนึ่งบ่นในเรื่องบทของภาค 2 ที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ติดตามนัก ภาค 3 นี่จึงเป็นการแก้มือโดยทีมงานสัญญาว่าจะใส่แอ็กชันและบทกับเรื่องราวให้พอเหมาะ มีสมดุลพอดีๆ ไม่เบาโหวงเกินไปอีก และผลที่ได้ก็ถือว่าทีมงานทำตามสัญญาได้ไม่เลวเลยครับ
ภาคต่อที่อุดมฉากแอ็กชันมากกว่าเก่าครับ เรื่องราวคราวนี้เริ่มเมื่อแซม วิทวิคกี้ (Shia LaBeouf) ตัวเอกจากภาคแรกที่อยากหันมาใช้ชีวิตธรรมดาแบบคนอื่นเขา เลยขอออกห่างจากเหล่าผองเพื่อนหุ่นยนต์ออโต้บอทเพื่อมาเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที