Mad City คือหนึ่งในหนังล่มของค่าย Warner Bros. (ร่วมรุ่นกับ The Postman ของ Kevin Costner) แต่ผมดูแล้วรู้สึกชอบครับ ชอบประเด็นง่ายๆ ตรงๆ ที่หนังสื่อ
Mad City คือหนึ่งในหนังล่มของค่าย Warner Bros. (ร่วมรุ่นกับ The Postman ของ Kevin Costner) แต่ผมดูแล้วรู้สึกชอบครับ ชอบประเด็นง่ายๆ ตรงๆ ที่หนังสื่อ
Face/Off ถือเป็นหนังบู๊สาดกระสุนที่เด็ดสุดของ John Woo ในสมัยที่เขาโกฮอลลีวู้ดครับ (อันที่จริงนับจากปี 1997 มาถึงตอนนี้ พี่ท่านก็ไม่ได้แตะหนังแอ็กชันยิงกันแบบนี้อีกเลย)
แม้ผลงานเรื่องแรกในฮอลลีวู้ดของ John Woo อย่าง Hard Target จะไม่ค่อยทำเงินสักเท่าไร แต่อย่างน้อยลีลาการบู๊เท่ห์ ยิงแบบสโลว์ ถือปืนสองมือ สไลด์ตัวไปลั่นกระสุน แอ็กชันทั้งหมดที่ Woo พยายามถ่ายทอดมันก็ยังเข้าตาคนดูกลุ่มหนึ่ง รวมถึงผู้สร้างหลายคนก็จับตามองครับเพราะของแบบนี้ถือว่าสดพอสมควรสำหรับฮอลลีวู้ดยุคนั้น อันทำให้เขาได้โอกาสที่ 2 ในการทำหนังสัญชาติอเมริกันเรื่องนี้ครับ
วอลเตอร์ การ์เบอร์ (Denzel Washington) พนักงานการรถไฟที่ตื่นเช้ามาพร้อมคิดว่าวันนี้ก็คงเป็นวันธรรมดาอีกวัน แค่ทำงานแล้วกลับบ้านพบหน้าภรรยา แต่แล้วเขากลับต้องพบกับสถานการณ์จับตัวประกัน เมื่อรถไฟใต้ดินแห่งมหานครนิวยอร์ก สายเพแลห์ม 123 ถูกยึดโดยผู้ก่อการร้าย 4 คน นำโดยชายที่เรียกตัวเองว่า ไรเดอร์ (John Travolta) พร้อมเสนอข้อเรียกร้องค่าไถ่ตัวประกันซึ่งก็คือผู้โดยสารบนรถ ให้จ่ายเงินมาภายในเวลา 15.15 น. ไม่เช่นนั้นตัวประกันจะต้องตายเรียงตัว
เมื่ออลิซาเบธ (Leslie Stefanson) ลูกสาวของท่านนายพลโจเซฟ แคมป์เบลล์ (James Cromwell) ถูกพบเป็นศพในสภาพเปลือยกลางฐานทัพฟอร์ด แม็คคัลลัม ทำให้ พอล เบรนเนอร์ (John Travolta) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมือดีถูกตามตัวมาสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ และใครคือฆาตกรตัวจริง
ผู้กำกับ John McTiernan เป็นอีกคนที่มีฝีมือนะครับ เพราะผลงานของเขาส่วนมากจะน่าสนใจทั้งสิ้น ตั้งแต่ Die Hard ภาคแรกและภาคสาม, The Hunt for Red October, The Thomas Crown Affair, Predator, The 13th Warrior และ Medicine Man (ละเรื่อง Rollerball ไว้ในฐานที่เข้าใจครับ อันนั้นมือร่วงแบบผิดคาดจริงๆ)
แฟรงค์ มอร์ริสัน (John Travolta) ชายผู้ประกอบอาชีพต่อเรือ เขาเป็นคนดีครับ แต่ชีวิตคู่ไม่ราบรื่นจนต้องหย่ากับซูซาน (Teri Polo) ภรรยาที่รักของเขามาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นพ่อที่น่ารัก และรักลูกชายคนเดียวอย่างแดนนี่ (Matt O’Leary) จนหมดหัวใจ
เนื่องในโอกาสที่ดู X-Men มาก็ขอพูดถึงหนังเก่าที่ Hugh Jackman และ Halle Berry เล่นร่วมกันไว้ซักหน่อยนะครับ (เกี่ยวกันไหมหว่าเนี่ย )
หนังสงครามร่วมรุ่นกับ Saving Private Ryan ที่ฉายปีเดียวกัน เข้าชิงออสการ์เคียงกันในหลายรายการ ซึ่งก็่ถือว่าหนังทั้งสองเรื่องล้วนมีดีกันคนละแบบครับ
ผลงานลำดับถัดมาของ Brian De Palma หลังจากดังไปสุดๆ กับ Dressed To Kill ซึ่งก็ยังคงเป็นแนวฆาตกรรมลึกลับซ่อนเงื่อนตามเดิมครับ