
Monk Comes Down The Mountain หนังบู๊กังฟูที่คิดจะดูมาตั้งหลายหนแล้วครับ แต่ก็เพิ่งสบโอกาสได้ดูเมื่อไม่นานมานี้เอง และพอดูแล้วก็บอกได้เลยว่าผมค่อนข้างจะออกแนวเฉยสำหรับเรื่องนี้ครับ
Monk Comes Down The Mountain หนังบู๊กังฟูที่คิดจะดูมาตั้งหลายหนแล้วครับ แต่ก็เพิ่งสบโอกาสได้ดูเมื่อไม่นานมานี้เอง และพอดูแล้วก็บอกได้เลยว่าผมค่อนข้างจะออกแนวเฉยสำหรับเรื่องนี้ครับ
ไซอิ๋วภาคนี้นี่กลายเป็นภาคที่ผมชอบที่สุดในบรรดา 3 ภาคที่สร้างกันมาครับ ยอมรับว่าคาดไม่ถึงเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองน่าจะเฉยๆ นะ เพราะจำได้เลยว่าตอนดูไซอิ๋วฉบับเก่าๆ แล้วพอถึงตอนเมืองแม่ม่ายทีไร ผมจะรู้สึกเฉยๆ กับตอนนี้ทุกที มันรู้สึกเหมือนเป็นตอนเบาๆ+เอาฮาน่ะครับ ไม่ได้มีปีศาจให้ปราบ พล็อตไม่ได้ซับซ้อน ปมไม่ได้มากมาย สิ่งที่พวกพระถังต้องรับมือก็คือเหล่าสตรีในเมืองลับแลที่มากกฎเยอะกติกา แต่ละคนนี่ออกแนวหญิงเยอะจนบางทีก็อดรำคาญไม่ได้
จุดหนึ่งที่จัดว่าน่าเสียดายในภาคนี้คือการที่ Donnie Yen ไม่กลับมารับบทซุนหงอคง ซึ่งคนที่มารับบทแทนก็คือ กั๊วฟู่เฉิง (ที่ภาคก่อนเล่นเป็นปีศาจกระทิง) ที่แม้ว่าพี่แกจะแสดงได้ดีอยู่ แต่ในแง่แอ็กชันลีลากังฟูแล้ว ยังไงป๋า Donnie ก็พริ้วกว่าครับ
ปัญหาประการหนึ่งของหนังจีนยุค CG คือ ถ้าเรื่องไหนเน้น CG มากๆ ล่ะก็ เนื้อหาและความแน่นของเรื่องมักจะโดนลดบทบาทลงครับ ส่วนจะโดนลดมากจนไม่เหลือเลยหรือยังพอกล้อมแกล้มดูสนุกอยู่บ้าง ก็ต้องแล้วแต่กรณี
ได้ยินกิตติศัพท์มาว่าหนังชุดนี้มีดีใช้ไดก็เลยรอดูอยู่พักหนึ่งครับ (เพราะตอนที่รู้ หนังยังไม่เข้าไทย) ครั้นพอได้ดูก็ยอมรับเลยครับว่าของเขาดีจริง ดูสนุกในระดับที่น่าพอใจทีเดียว
ใครยังจำ บันล็อค ผู้ชายทะลุเวลา ได้บ้างครับ
ครั้งนี้กั๊วะฟู่เฉิงมารับบทนำนะครับ เป็นแดร์เรน ตง หัวหน้าหน่วยตำรวจที่กำลังตามล่าพวกค้ายาและคอรัปชั่นระดับชาติ อันนำเขาไปเผชิญกับเหล่าร้ายอย่าง โทนี่ (Mark Dacascos) และคูลิโอ้ (Coolio)