Michelle Pfeiffer รับบท ลอแอนน์ จอห์นสัน คุณครูคนใหม่ที่ต้องมาปราบนักเรียนสุดเฮี้ยวทั้งห้อง ซึ่งแน่นอนว่าตอนแรก นักเรียนทุกคนต่างก็หาทางขับไล่ครูออกไป แต่พอเวลา ครูได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว เหล่านักเรียนก็หันมาเคารพครูกัน ตามสูตรเป๊ะ
Michelle Pfeiffer รับบท ลอแอนน์ จอห์นสัน คุณครูคนใหม่ที่ต้องมาปราบนักเรียนสุดเฮี้ยวทั้งห้อง ซึ่งแน่นอนว่าตอนแรก นักเรียนทุกคนต่างก็หาทางขับไล่ครูออกไป แต่พอเวลา ครูได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว เหล่านักเรียนก็หันมาเคารพครูกัน ตามสูตรเป๊ะ
หนังภาคต่อของ To Sir, with Love ที่ทำออกมาหลังจากภาคแรกถึง 30 ปี เรื่องราวก็คือ 30 ปีหลังจากภาคแรก ครูแท็คคารี่ของเรา (Sidney Poitier) เกษียณแล้วครับ แต่เลือดความเป็นครูยังข้นคลั่ก เขาจึงรับคำเพื่อนไปช่วยปราบนักเรียนเฮี้ยวที่อเมริกา และความสนุกก็ดำเนินต่อครับ เพราะนักเรียนคราวนี้เฮี้ยวจริง ร้ายจริง เข้ากับสมัยมากเลยครับ มียกพวกตีกัน มีเอาปืนมาไล่ยังกันด้วย แล้วครูแท็คคารี่จะทำยังไงกับนักเรียนเหล่านี้ ต้องไปติดตามครับ
ภาคต่อที่กว่าจะสร้างออกมาได้ก็ทิ้งช่วงจากตอนก่อนถึง 10 ปี เรื่องราวต่อจากครั้งก่อน ที่ดร.เลคเตอร์ (Anthony Hopkins) แกหนีออกมาจากที่คุมขังได้ และหายตัวไป ส่วนแคลริซ สตาร์ลิ่ง (Julianne Moore เข้าสวมบทแทน Jodie ซึ่งบอกปัดไป) ก็พยายามตามรอยของเลคเตอร์ต่อไป และครั้งนี้ เธอจะได้พบเขาแน่นอนครับ เพราะเขาก็ติดตามเธออยู่เหมือนกัน…
นี่คือภาคต่อของ The Fugitive ครับ … เปล่า ดร.คิมเบิ้ลแกไม่ได้โดนหาว่าไปฆ่าใครอีกหรอก แต่หนังจับเอาเรื่องของ แซมมวล เจอราร์ด (Tommy Lee Jones) ผู้ตรวจการสหรัฐที่กัดไม่ปล่อยคนเดิม ให้กลับมาเจอกับนักโทษหลบหนีรายใหม่ เขาผู้นั้นคือ มาร์ค เชอริแดน (Wesley Snipes) ชายผิวดำที่ต้องคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ยูเอ็น ซึ่งแน่นอนว่าแซมก็ตามไม่หยุดล่ะครับ แต่ยิ่งที่แกตามเท่าไร ก็ยิ่งพบเงื่อนงำลึกลับในคดีนี้มากขึ้นเท่านั้น
Denzel Washington รับบท ลินคอร์น ไรห์มส ตำรวจที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการไปเกือบทั้งตัว มีแค่นิ้วเท่านั้นที่พอจะขยับได้ เขาเลยต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด แต่ถึงกระนั้นสมองของเขาก็ยังทรงประสิทธิภาพ
เรื่องนี้ก็มันส์พะยะค่ะครับ เป็นการกลับมาที่โอเคมากของผู้กำกับ Joel Schumacher ที่หลังจากพี่แกทำ Batman & Robin ออกมาได้ไม่ดีนัก ก็แทบจะหมดอนาคตไปเลยครับ จนเรื่องนี้นี่แหละ ที่เขากลับมาคืนฟอร์มซะที
พอ The Hunt For Red October ดัง โกยเงินไปเป็นร้อยล้าน ภาคสองก็เริ่มเดินเรื่องต่อทันทีครับ ซึ่งครั้งนี้แจ๊ค ไรอัน (Harrison Ford) ได้ไปขัดขวางการก่อการร้ายของพวกกองโจรไออาร์เอเข้า และเหตุการณ์นั้นทำให้ ฌอน มิลเลอร์ (Sean Bean) หนึ่งในทีมผู้ร้ายต้องสูญเสียน้องชายไป จึงทำให้ฌอนผูกใจเจ็บและพร้อมจะแก้แค้นแจ๊ค ไรอันทุกวิถีทาง ไม่เว้นแม้แต่ทำร้ายครอบครัวของแจ๊คด้วย
พอล อาร์มสตรอง (Sean Connery) ศาสตราจารย์ทางกฎหมาย ที่ได้รับการร้องขอจากบ็อบบี้ เอิร์ล (Blair Underwood) ชายผู้โดนจับกุมข้อหาฆาตกรรมเด็ก แต่บ็อบบี้ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำ พอลจึงเดินทางมาเพื่อสืบหาความจริงด้วยตนเอง และเขาก็ได้เจอกับนายอำเภอผู้ไม่เป็นมิตรนัก นามแทนนี่ บราวน์ (Laurence Fishburne) การสืบหาความจริงก็ดำเนินไปพร้อมกับเวลาของบ้อบบี้ เอิร์ลที่ลดลงทุกวินาที แล้วความจริงมันคืออะไร ใครคือฆาตกร โปรดติดตามครับ
สร้างมาสองภาคก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภาคสามก็เลยเดินตามออกมาครับ
โรลลี่ เทย์เลอร์ (Bryan Brown) คือมือทำ Special Effect ให้กับหนังดังๆ มากมายหลายเรื่อง แต่งานล่าสุดของเขาคือ ช่วยตำรวจจัดฉากการฆาตกรรม และเมื่อเวลาทำภารกิจมาถึง แผนกลับผิดพลาด มีคนต้องตายไป