ป้ายกำกับ: 2023

The Nun II (2023) เดอะ นัน II

การตามมาดู The Nun II นี่ สำหรับผมเหมือนทำตามหน้าที่น่ะครับ ไหนๆ ก็ตามดูจักรวาล The Conjuring มาถึงป่านนี้แล้ว เขาทำออกมาก็ตามดูกันต่อไป โดยที่ใจนั้นก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย ยิ่งรู้ว่าหนังกำกับโดย Michael Chaves แห่ง The Curse of La Llorona และ The Conjuring: The Devil Made Me Do It ความคาดหวังยิ่งลดลงไปใหญ่

The Boogeyman (2023) เดอะ บูกี้แมน

The Boogeyman ถือเป็นหนังสยองระดับกลางๆ ครับ คือดูได้เรื่อยๆ มีเนือยอยู่หลายช่วงเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจล่ะครับว่าคนทำคงอยากบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครให้ครบถ้วนตามสิ่งที่อยากนำเสนอ ดังนั้นถ้าจะให้นิยามแนวของหนังเรื่องนี้ก็คงเป็นดราม่าผสมลึกลับสยองขวัญ – ว่าง่ายๆ คือดราม่าจัดว่าเยอะอยู่ครับ

Meg 2: The Trench (2023) เม็ก 2 อภิมหาโคตรหลาม ร่องนรก

ณ โมเมนต์ที่ผมกำลังเขียนถึง Meg 2: The Trench อยู่นี้ หนังโกยเงินทั่วโลกไปเฉียด $400 ล้านแล้วครับ (จากทุนสร้างประมาณ $130 ล้าน) แม้จะไม่มากเท่าที่ภาคแรกทำไว้ ($529 ล้าน) แต่ก็ต้องถือว่าหนังทำเงินในระดับน่าพอใจล่ะครับ กลายเป็นว่าหนังโกยไปมากกว่า The Flash ซะอีก

No One Will Save You (2023)

บอกแบบไม่อ้อมค้อม ตอนจบของ No One Will Save You นี่มันโดนเส้นผมซะจริงๆ ทำเอาผมรู้สึกชอบหนังเรื่องนี้ไปเลย

Spy Kids: Armageddon (2023) พยัคฆ์จิ๋วไฮเทค: วันสิ้นโลก

Spy Kids: Armageddon ถือว่าไม่เลวครับ มีจุดที่เข้าท่าและยังโอได้อีกผสมๆ กันไป ถ้าให้เรียงตามความชอบแล้ว ภาคนี้ยังสู้ 2 ภาคแรกไม่ได้ แต่ก็ถือว่าน้องๆ ภาค 3 และเข้าท่ากว่าภาค 4 ครับ

Heart of Stone (2023) ฮาร์ท ออฟ สโตน

พอดูหนังที่สร้างโดย Netflix บ่อยๆ มันก็ทำให้จับทางได้น่ะครับว่าหนังของที่นี่มันน่าจะประมาณนี้แหละ โทนแบบนี้ สเกลประมาณนี้ อย่างหนังแอ็คชั่นมันก็จะใหญ่ประมาณหนึ่ง ความลุ้นก็ประมาณหนึ่ง แต่มันจะไม่ถึงกับบิ๊กเบิ้มอลังการแบบหนังเข้าโรง เรียกว่ามันจะมีเพดานของมันอยู่

Winnie the Pooh: Blood and Honey (2023) วินนี่เดอะพูห์ โหด/เห็น/หมี

ว่ากันตรงๆ Winnie the Pooh: Blood and Honey ก็คือหนังลงสูตรแนวฆาตกรไล่เชือดอีกเรื่องน่ะครับ เพียงแต่หนังมีจุดขายและความใหม่ตรงที่นำเอาตัวละครแสนน่ารักอย่างหมีพูห์มารับบทฆาตกรเท่านั้นล่ะ

Evil Dead Rise (2023) ผีอมตะผงาด

ระยะหลังนี่ผมดูหนังสยองขวัญน้อยลงครับ ไม่ใช่เพราะไม่อยากดูนะ แต่เพราะพอมีครอบครัวแล้ว พื้นที่บนจอทีวีก็ถือเป็นส่วนกลางที่คนทั้งบ้านดูหรือไม่อย่างน้อยก็ต้องผ่านไปผ่านมา ดังนั้นการจะเปิดหนังอะไรบนจอเราก็ต้องคิดอยู่เสมอว่าภรรยาหรือลูกจะสะดุ้งสะเทือนไหม เลยทำให้อัตราส่วนการดูหนังสยองน้อยลงตามลำดับ