หลังดู Glass Onion จบ ผมก็ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงในการถามตัวเองว่าตกลงรู้สึกยังไงกับหนัง?
หลังดู Glass Onion จบ ผมก็ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงในการถามตัวเองว่าตกลงรู้สึกยังไงกับหนัง?
Barbarian ถือเป็นหนังสยองขวัญที่ปักหมุดไมล์ในใจผมครับ ไม่ใช่เพราะว่ามันสุดยอดสมบูรณ์จนไร้ที่ติด และไม่ใช่เพราะมันแปลกใหม่อะไร แต่เพราะมันเป็นหนังสยองเชือดที่มีจุดชวนรำคาญอยู่หลายประการ แต่สรุปสุดท้ายแล้วผมก็ยังรู้สึกเชิงบวกกับมันอยู่ดี
เหตุผลที่ดู The Noel Diary นั้นนอกจากเพราะเป็นหนังคริสต์มาสแล้ว อีกเหตุผลก็คือหนังกำกับโดย Charles Shyer เจ้าของผลงานที่ผมชอบตลอดกาลอย่าง Father of the Bride (1991) ซึ่งเขาก็ห่างหายจากการกำกับหนังไปเกือบ 10 ปีแน่ะครับ
Warriors of Future เป็นหนังดูง่ายครับ คือดูแบบไม่คาดหวังอะไรเลย หลักๆ คือดูเพราะเหล่าดาราฮ่องกงที่แสนคุ้นเคย ไม่ว่าจะกู่เทียนเล่อ, หลิวชิงหวิน, หลิวเจียหลิง, จางเจียฮุย และ Philip Keung สำหรับผมแล้วพวกเขาเหล่านี้รับประกันความโอเคของหนังได้ในระดับหนึ่งครับ อย่างบางเรื่องที่อาจไม่ได้สนุกอะไรนัก แต่อย่างน้อยการแสดงของพวกเขาก็พอจะประคองให้เราดูหนังไปจนจบได้
หนังแนวฝนตกขี้หมูไหลนี่การจะทำให้ออกมาดีได้นี่ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะครับ เพราะถ้าเล่าไม่ดีก็จะกลายเป็นออกมามั่ว ดูแล้วมึนแทนที่จะมันส์ หรือไม่ก็จะไม่น่าสนใจแบบตลอดรอดฝั่ง ดูพอได้แค่ตอนแรกๆ แต่พอผ่านไปสักพักกราฟก็อาจจะนิ่งและตกลงในที่สุด
ภรรยาบอกว่าให้หาหนังมานั่งดูกับลูกสาวในวันหยุด ผมก็เลือกเปิด DC League of Super-Pets เลยครับ คิดว่าลูกน่าจะชอบ
ผมมีคำถามในใจมาพักหนึ่งแล้วครับ ว่าถ้า Stranger Things จบในปีที่ 5 แล้วเนี่ย จะมีซีรี่ส์ไหนให้เราตามติดอีกไหมเนี่ย? แล้วบัดนี้คำตอบก็มาครับ มันคงจะเป็นเรื่อง Wednesday นี่แหละ
ก่อนดู The Swimmers สิ่งที่ผมคาดประมาณไว้คือกำลังจะได้ดูหนังแนวสร้างแรงบันดาลใจที่สร้างจากเรื่องจริงของนักกีฬาว่ายน้ำสาวที่ฝ่าฟันกับสารพัดอุปสรรคจนได้ไปแข่งโอลิมปิก
จริงๆ หน้าหนัง Slumberland ถือว่าเข้าทางผมนะครับ ออกแนวผจญภัยแฟนตาซี แต่ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันผมถึงมองข้ามไป คือไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่ก็ยังดีครับที่ตัดสินใจเลือกดู แล้วผลก็คือชอบครับ สนุกดี
Fortress: Sniper’s Eye ภาคต่อที่ดูแล้วยอมรับเลยว่ากุมขมับหนักยิ่งกว่าภาคแรกซะอีก