
ธรรมชาติพยายามสื่อสาร สอนสั่ง และตักเตือนเราอยู่เรื่อยๆ ผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ธรรมชาติพยายามสื่อสาร สอนสั่ง และตักเตือนเราอยู่เรื่อยๆ ผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
คงไม่ต้องสาธยายยาวกับหนังเรื่องนี้ครับ นอกจากประเด็นหลักๆ ว่าผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว และผลลงเอยก็คือ “ชอบ”
ผมเพิ่งดูซีรี่ส์ชุดนี้จนจบปี 9 ไปเมื่อกี้เองครับ… จริงๆ ผมชอบซีรี่ส์ชุดนี้มาก ตีคู่กับ The Big Bang Theory เลยก็ว่าได้ และเวลาดูผมก็จะดูแบบไล่ๆ กับอเมริกาไม่นานนัก เพราะชอบน่ะครับ เลยติดงอมแงม พยายามดูให้เร็วทันใจที่สุดเท่าที่ทำได้
คอนเซปต์ “เวลาใช้แทนเงินตรา” ของหนังเรื่องนี้มันเข้าท่าแท้ๆ
หนังโรงหลายเรื่องที่ผมดูแล้วก็เอาแต่เก็บเงียบไม่ยอมมารีวิวซะที แต่พอดีช่วงนี้ปะเหมาะครับ เลยจะค่อยๆ ทยอยเริ่มจากหนัง 3D เรื่องนี้
และนี่คือการกลับมารอบใหม่ของ จอห์นนี่ อิงลิช (Rowan Atkinson) พยัคฆ์ร้ายจอมซุ่มซ่ามกับภารกิจตามสืบไขปมปริศนาขององค์กรนักฆ่าลึกลับ ซึ่งลองว่าเป็นจอห์นนี่ อิงลิชแล้วล่ะก็ ไม่มีทางสืบแบบธรรมดาหรอกครับ มันต้องสืบไปป่วนไปถึงจะเป็นอิงลิชของแท้
“อย่างมันส์ อย่างอิน และอย่างฟิน” คือคำจำกัดความที่ผมมอบให้ Real Steel ครับ
สำหรับ The Thing ฉบับนี้ถือเป็นภาคก่อนหน้าของเหตุการณ์ใน The Thing ปี 1982 ของลุง John Carpenter อันที่จริงตอนแรกก็มีการคิดๆ กันครับว่าจะรีเมคจากฉบับปี 1982 เลยดีไหม แต่ทุกฝ่ายก็เห็นตรงกันในที่สุดครับว่าฉบับปี 1982 มันยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ดังนั้นการไปรีเมคซ้ำของดีๆ แบบนั้นมันไม่เข้าท่า ถึงกับมีคนเปรียบว่า “เหมือนพยายามเอาสีไปทาทับภาพโมนาลิซ่า” อย่างนั้นเลย
ภาคก่อนถือว่าทำเอาใจคอแอ็กชันให้เพลิดเพลินแบบสาแก่ใจ พอมาภาคนี้ทีมงานก็มีข่าวออกมาตั้งแต่ตอนสร้างครับ หลังจากโดนแฟนๆ ส่วนหนึ่งบ่นในเรื่องบทของภาค 2 ที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ติดตามนัก ภาค 3 นี่จึงเป็นการแก้มือโดยทีมงานสัญญาว่าจะใส่แอ็กชันและบทกับเรื่องราวให้พอเหมาะ มีสมดุลพอดีๆ ไม่เบาโหวงเกินไปอีก และผลที่ได้ก็ถือว่าทีมงานทำตามสัญญาได้ไม่เลวเลยครับ
ยอมรับว่าหวังไว้พอสมควรครับ ตั้งแต่รู้ว่าได้ Mark Neveldine และ Brian Taylor มานั่งแท่นกำกับให้ ก็พวกพี่แกทำ Crank ออกมาได้มันส์น่ะครับ เลยคาดว่ามันคงมีอะไรมันส์ๆ สดๆ ใส่ลงไปในพี่กะโหลกไฟภาคนี้ด้วย… แต่พอดูแล้ว นิ่งเนิ่บทางอารมณ์เกินคาด