ภาคต่อเข้าโรงไปจนจะออกแผ่นแล้วนะครับ ผมว่าจะไปดูแต่ก็พลาดไป ก็ไม่เป็นไรครับ รอดูที่บ้านแล้วกัน
ภาคต่อเข้าโรงไปจนจะออกแผ่นแล้วนะครับ ผมว่าจะไปดูแต่ก็พลาดไป ก็ไม่เป็นไรครับ รอดูที่บ้านแล้วกัน
เท่าที่ทราบมาคอหนังที่ติดตามหนังรักของ Hallmark จะเห็นคล้ายๆ กันครับ ว่าหนังรักช่วงวาเลนไทน์ปีนี้ของ Hallmark มาในโทนที่หวานแหววน้อยลง ความโรแมนติกก็ติดดินขึ้น และเน้นที่โลกแห่งความจริง มากกว่าจะอุดมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความฝัน… ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่นั่นแหละครับ ^_^
เรื่องนี้ชอบตั้งแต่ตอนดูโรงครับ บอกตรงๆ ว่าเสียดายมากที่หนังล่ม คือหนังทำเงินไปแค่ $52 ล้านจากทั่วโลก แต่เงินที่ลงทุนไปอย่างต่ำคือ $80 ล้าน แน่นอนครับว่าเจ๊งสนิท
หนังแนวพิศวาสฆาตกรรมแบบที่ฮิตทำกันออกมาในช่วงยุค 90 ว่าด้วยหญิงสาวใช้เสน่ห์ของตนลวงให้ชายซื่อๆ กระทำการฆาตกรรม หรือไม่ก็ยอมทำสิ่งผิดกฎหมายเพื่อเธอ
ผลออสการ์ปีที่ผ่านมานั้นผมว่าผมโอเคกับมันนะ คือหนังที่ได้ไปก็ถือว่าควรค่าแก่การได้รางวัล อย่าง Mad Max นี่ก็ถึงเครื่องมากในเรื่องการทุ่มทุนถ่ายทำ ทีมงานต้องใช้แรงกันหนักโคตรๆ จนรู้สึกว่าหนังคู่ควรกับรางวัลเกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ทุกสาขาเลย
หนังฝรั่งที่นำเอาตำนานของป่าอาโอกิงาฮาระ หรือป่าฆ่าตัวตายแห่งประเทศญี่ปุ่นมาผูกเป็นเรื่องเป็นราวครับ โดยมีพล็อตผสมดราม่าลงไปนิดๆ แล้วก็เน้นตรงอารมณ์สยองแบบหลอนๆ
เห็นชื่อตอนแรกก็คิดว่ามันคือการรีเมคหรือเปล่า แต่เท่าที่จำได้ก็คือมันยังไม่เคยเป็นโปรเจคท์ที่มีการสร้างกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย (มีแต่ข่าวลือว่า “จะทำๆ”)
หนังฮาเรื่องนี้ถ้าดูแบบคาดหวังความสมบูรณ์มันก็อาจไม่ตอบโจทย์น่ะนะครับ แต่หากดูแบบไม่คิดมาก ดูเอาเพลิน ผมว่าก็โอเคไม่น้อย อันที่จริงต้องบอกว่าสนุกกว่าที่คิดนิดนึงครับ
ผมดูหนังเรื่องนี้โดยไม่เอาอะไรไปเปรียบไปเทียบกับฉบับดั้งเดิม เพราะหากเปรียบแล้วล่ะก็ ฉบับเดิมทำไว้ขลังมาก แม้จะเป็นการ์ตูนก็ตาม แต่มันผสมระหว่างไซไฟ แฟนตาซี ลึกลับ ทริลเลอร์ และดราม่าที่ถึงรสเหลือหลาย (แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกจริต)
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้นี่ผมนึกถึง Battle Royale ตลอดเลยครับ เพราะพล็อตมันมาแนวเดียวกันเลย ประเภทให้คนไปอยู่รวมในที่เดียวแล้วก็ไล่ฆ่ากันให้ตายให้หมด ทุกคนก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดกันแบบจ้าละหวั่น