บอกตรงๆ ว่าดูจากชื่อชั้นดาราแล้ว มันดึงดูดให้คนรุ่นผมเอามาดูจริงๆ นะ แม้จะรู้อยู่เลาๆ ว่ามันมีแนวโน้มจะเป็นหนังเกรดบีที่ไม่มีอะไรให้จดจำก็เถอะ
บอกตรงๆ ว่าดูจากชื่อชั้นดาราแล้ว มันดึงดูดให้คนรุ่นผมเอามาดูจริงๆ นะ แม้จะรู้อยู่เลาๆ ว่ามันมีแนวโน้มจะเป็นหนังเกรดบีที่ไม่มีอะไรให้จดจำก็เถอะ
เห็นชื่อดารานำอย่าง Brandon Routh, Caity Lotz และ Tom Cavanagh แล้วตอนแรกก็นึกล่ะครับว่ามันจะเป็นหนัง Crossover กับซีรี่ส์ Arrow และ The Flash หรือเปล่าเนี่ย (555)
ดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดถึงเรื่อง “มาห์” เลยครับ เผื่อใครไม่รู้จัก มาห์คือหนังไทยอายุหลายสิบปีแล้วครับ เป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องของบ้านเราที่ทำออกมาในแนวสัตว์ประหลาดสยองโหด ที่ว่าโหดนี่คือโหดจริงครับ ทำออกมาน่ากลัวเอาเรื่องเลยล่ะ
แม้นี่จะเป็นหนังผี แต่ผมขอเล่าแบบขำๆ แล้วกันน่ะนะครับ (5555) สรุปแล้ว นี่คือการเอา The Exorcist มาเจอกับ Poltergeist ครับ คือลอกสูตรหนังพวกนั้นมาแบบเต็มๆ ดังนั้นใครคาดหวังอะไรสดใหม่ล่ะก็ ทำใจได้เลยครับ ^_^
หนังที่นักวิจารณ์ไม่ปลาบ แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ปลื้มครับ ซึ่งผมก็อยู่ในพวกหลังคือชอบหนังกับเขาเหมือนกัน รู้สึกแฮ้ปปี้ยามได้ดู และรู้สึกอิ่มเอมไปกับเรื่องราวหวานปนซึ้งแบบนี้
ด้วยชื่อชั้นดาราก็ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ แต่กระนั้นก็ยังเผื่อใจไว้เหมือนกันเพราะหนังเงียบมาก อีกทั้งไม่ได้เข้าโรงในอเมริกาด้วยซ้ำ (รู้สึกจะลงแผ่นไปเลยน่ะครับ)
ถ้าใครโปรดปรานหนังขำคิดสไตล์ Woody Allen ล่ะก็ ขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ เพราะหนังทำออกมาได้สนุกไม่เลวเลย (แต่ก็อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบน่ะนะครับ)
หนังอินดี้ที่ได้รับการพูดถึงไม่น้อยครับ แต่บอกก่อนว่าสไตล์มันอาจไม่เหมาะกับทุกคนนะ คือหนังทำออกมาแบบ Real และแรงในบางฉาก เรียกว่าถ้าจะดูเอาสนุกแบบหนัง Hollywood ล่ะก็ หนังอาจไม่ตอบโจทย์เท่าไร
หลังจากเกิดเหตุการณ์ 9/11 เป็นต้นมา อเมริกาก็พัฒนาโดรนสำหรับสงครามมากขึ้นครับ ใช้ค้นหาและทำลายเหล่าผู้ก่อการร้ายแบบฉับพลัน โดยไม่ต้องยกกำลังทหารไปจู่โจมโดยตรง
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังของ James Wan ครับ ไม่ว่าจะเรื่องราวตามสืบหาความจริงที่บรรยากาศดูเก่าๆ คล้าย Dead Silence แล้วก็เรื่องบ้านหลอนๆ แบบ Insidious