The Cable Guy (1996) เดอะ เคเบิ้ล กาย เป๋อจิตไม่ว่าง

นี่คือหนังตลกที่ดังตั้งแต่ยังไม่สร้างเพราะเฮีย Jim Carrey ได้ทุบสถิติใหม่รับค่าตัวไป 20 ล้านจากหนังเรื่องนี้ แต่ตัวหนังกลับไม่ถูกใจผู้ชมเท่าที่ควรครับ ทำเงินได้คืนมาจากทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าพอเท่าทุน (ลงไป 47 ล้านน่ะครับ ถ้าตัดค่าตัวเฮียแกออก หนังก็จะลงทุนไม่เกิน 30 ล้านเท่านั้น)

Dr. Strange (1978)

ดร. สเตรนจ์ คือ ซูเปอร์ฮีโร่อีกคนหนึ่งในโลกของ Marvel ครับ สร้างสรรค์โดย Stan Lee และ Steve Ditko ซึ่งฮีโร่คนนี้ไม่เหมือนใครครับ เพราะเป็นฮีโร่ที่มีหน้าที่ต่อกรกับปีศาจชั่ว พ่อมดแม่มดร้าย หรืออำนาจเวทย์มนต์เหนือโลก

The Commuter (2018) นรกใช้มาเกิด

ดูหนังเรื่องนี้แล้วผมบังเกิดความรู้สึก 2 อย่างพร้อมๆ กัน อย่างแรกคือดูได้สนุกเพลินดี ตามสไตล์หนังบู๊ที่มี Liam Neeson มาแสดงนำ ส่วนอีกอย่างก็คือ อดรู้สึกไม่ได้ว่าบทหนังมันมีช่องโหว่เยอะจัง

Stuart Gordon’s Castle Freak (1995)

จากเค้าโครงเรื่องสั้น The Outsider ของ H. P. Lovecraft มาสู่อีกหนึ่งผลงานของ Stuart Gordon ผู้กำกับที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของนิยาย Lovecraft ที่เวลากำกับหนังทีไรก็ต้องยกเอาเรื่องของนักเขียนในดวงใจคนนี้มาปั้นเรื่องสร้างหนังทุกที อย่าง Re-Animator, From Beyond แล้วก็ Dagon และส่วนใหญ่พอพี่ท่านเอานิยายมาดัดแปลง ผลที่ออกมาก็จัดว่าใช้ได้ทุกเรื่องครับ

End of Days (1999) วันดับซาตาน อวสานโลก

หนังจับกระแสที่กำลังมาแรงในช่วงนั้นครับ คือการก้าวสู่ปี 2000 แล้วก็ผูกเรื่องเข้ากับตำนาน “ซาตานต้านพระคริสต์” โดยกำหนดบอกเล่าว่าคืนสุดท้ายแห่งปี 1999 นั้นซาตานจะขึ้นมาจากขุมนรกและกระทำการสมสู่กับมนุษย์เพศหญิงที่ถูกเลือกไว้ แล้วหากมันทำสำเร็จก็จะเท่ากับเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเรืองอำนาจของซาตาน

Nancy Drew (2007) แนนซี่ ดรูว์ สาวน้อยนักสืบ

แนนซี่ ดรูว์ นี่คือชื่อที่นักอ่านผู้รักวรรณกรรมเยาวชนต้องเคยได้ยินกันมาบ้างล่ะนะครับ เพราะเป็นวรรณกรรมอมตะที่ก่อกำเนิดครั้งแรกเมื่อปี 1930 โดยนักเขียนที่ชื่อ Mildred Wirt Benson แต่ตอนนั้นเธอใช้นามปากกาว่า Carolyn Keene

The Mortal Instruments: City of Bones (2013) นักรบครึ่งเทวดา

การดูหนัง Percy Jackson มาแล้ว 2 ภาคทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า “บทหนัง” มากขึ้นครับ เพราะถ้าบทสามารถเขียนโดยถอดเอาเสน่ห์จากนิยายมาใส่ได้แบบลงตัว แล้วก็สร้างเรื่องราวให้มีสมดุลทั้งด้านจินตนาการ ความสนุก และความลื่นไหล เท่านั้นเราก็จะได้หนังสนุกๆ มาประดับวงการอีกเรื่อง

Ghost Rider: Spirit of Vengeance (2011) โกสต์ ไรเดอร์ อเวจีพิฆาต

ยอมรับว่าหวังไว้พอสมควรครับ ตั้งแต่รู้ว่าได้ Mark Neveldine และ Brian Taylor มานั่งแท่นกำกับให้ ก็พวกพี่แกทำ Crank ออกมาได้มันส์น่ะครับ เลยคาดว่ามันคงมีอะไรมันส์ๆ สดๆ ใส่ลงไปในพี่กะโหลกไฟภาคนี้ด้วย… แต่พอดูแล้ว นิ่งเนิ่บทางอารมณ์เกินคาด