The Impossible เล่าถึงครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อ (Ewan McGregor) แม่ (Naomi Watts) และลูกชาย 3 คน (Tom Holland, Samuel Joslin และ Oaklee Pendergast) เดินทางมาเที่ยวช่วงคริสต์มาสที่เขาหลัก จ.พังงา แล้วก็ประสบกับภัยซึนามิจนพวกเขาต้องพลัดพรากจากกัน
The Impossible เล่าถึงครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อ (Ewan McGregor) แม่ (Naomi Watts) และลูกชาย 3 คน (Tom Holland, Samuel Joslin และ Oaklee Pendergast) เดินทางมาเที่ยวช่วงคริสต์มาสที่เขาหลัก จ.พังงา แล้วก็ประสบกับภัยซึนามิจนพวกเขาต้องพลัดพรากจากกัน
โดยส่วนตัวแล้วผมว่า Pan เป็นหนังแฟนตาซีผจญภัยที่ดูได้เพลินๆ ครับ เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้โดดเด่นหรือแปลกใหม่อะไรมากมายเท่านั้นเอง
เมื่อดูหนังมาถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกครับว่า คนดูหนังไม่เป็นน่ะไม่มีหรอก เพราะดูหนังก็เหมือนดูโขน ดูลิเก ดูโอเปร่า กินข้าว เล่นเกม ฯลฯ ทุกคนที่เสพย่อมรู้สึกต่างกันไปตามแต่ความคิดอ่าน ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาหล่อหลอมมา
ก่อนดูภาคนี้ก็เอาหนัง Bourne มาดูต่อกันยาวๆ ก็พบวาดีกรีความมันส์ยังคงได้ใจอยู่ (โดยส่วนตัวชอบภาคแรกมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก)
ออกตัวก่อนว่าภาคแรกผมไม่ถึงกับชอบมากเท่าไรครับ คือดูได้เพลินๆ ขำๆ จุดเด่นคือ CG ที่เนรมิตภาพเมืองมหัศจรรย์ได้มหัศจรรย์สมชื่อ ดูแฟนตาซีและสีสันสดใสมากๆ
ช่วงนี้รู้สึกโปรแกรมหนังเริ่มเข้าสู่โหมดนิ่ง ไม่ได้มีอะไรฟอร์มยักษ์ๆ มาเสิร์ฟให้ได้ดูกัน พอนั่งนึกๆ ก็ถึงบางอ้อครับ เพราะตอนนี้อเมริกาถือว่าหมดช่วงซัมเมอร์แล้ว จัดเป็นช่วงพัก จะมาเริ่มจัดกันหนักๆ อีกทีก็ปลายเดือนกันยายนโน่นครับ
สำหรับผมแล้ว หนังรีเมคหรือรีบูทนั้น ที่จัดว่ามีดีเข้าเป้าจริงๆ ถือว่ามีไม่มากครับ และแทบจะไม่ต้องพูดถึงภาคต่อเลย เพราะไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องที่แค่ทำภาคแรกก็จอดแบบไม่ต้องแจวแล้ว หรือต่อให้ได้ไปต่อก็ตาม ก็ไม่แน่ว่าจะยืนยาวได้ถึง 3 ภาค
Dawn of the Planet of the Apes เป็นภาคต่อที่ไม่ผิดหวังเลยครับ เรื่องราวอาจไม่มีอะไรเกินคาดเดา ประมาณว่าเรารู้ตั้งแต่ดูตัวอย่างแล้วล่ะว่าเหล่าวานรและมนุษย์ต้องมีการปะทะกันแน่นอน และบทลงเอยคงหนีไม่พ้นหายนะอีกเช่นเคย
“ชีวิตย่อมมีหนทางของมัน” Jurassic Park ว่าไว้
รอบแรกที่ดูเรื่องนี้ในโรง ก็รู้สึกว่าหนังมันดูเพลินดีน่ะนะครับ แต่ด้วยความที่ชื่อผู้กำกับคือ Tim Burton มันทำให้แอบหวังลึกๆ ว่าหนังมันน่าจะเพี้ยนได้อีก เพลินได้อีก และสนุกได้อีก