เป็นหนังที่เปิดประเด็นตั้งต้นได้ดีครับ และงานเทคนิคหลายๆ อย่างก็จัดว่าเวิร์กอยู่ แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ได้โฟกัสอะไรๆ แบบชัดเจน (ว่าง่ายๆ คือออกจะเปะปะไปหน่อย) เลยทำให้ความน่าสนใจค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
เป็นหนังที่เปิดประเด็นตั้งต้นได้ดีครับ และงานเทคนิคหลายๆ อย่างก็จัดว่าเวิร์กอยู่ แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ได้โฟกัสอะไรๆ แบบชัดเจน (ว่าง่ายๆ คือออกจะเปะปะไปหน่อย) เลยทำให้ความน่าสนใจค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
วิลลาร์ด สไตลส์ (Bruce Davison) คือหนุ่มจอมหงอที่เข้ากับใครไม่ค่อยเป็นจนไม่มีเพื่อนเลย ความกล้าก็ไม่ค่อยมี แล้วยังถูกบีบให้ออกจากงานโดยเจ้านายวายร้ายนามว่า อัล มาร์ติน (Ernest Borgnine) ทั้งๆ ที่บริษัทที่เขาทำงานอยู่นี้ก็ก่อตั้งโดยพ่อของเขาแท้ๆ แต่ดันมาเจอนายอัลฮุบไปอย่างไม่เป็นธรรม
ผมนั้นเป็นแฟนเต่านินจาครับ ดูตั้งแต่สมัยช่อง 3 นำมาฉาย จำได้ตอนหนังภาค 1 จะเข้าผมก็รีบขอพ่อแม่ไปโรงหนังเลยครับ อยากดูมาก ปรากฏว่ามันเข้าวันศุกร์ แต่ผมทะลึ่งไปวันอังคาร (ก็หนังสือพิมพ์โฆษณาล่วงหน้าน่ะครับ 555) วันนั้นเลยไปนั่งกินพิซซ่าแทน
ก่อนว่ากันถึง Godzilla ของใหม่ก็ขอย้อนไปรำลึกของเก่าสักหน่อยนะครับ
การผจญภัยครั้งที่ 3 ของนายริดดิคที่กลับมาได้เพราะความรักที่พี่ Vin Diesel แกมีต่อบทนี้แท้ๆ ครับ รักถึงขนาดยอมกลับมารับบทดอมใน Fast & Furious เพื่อแลกกับการเป็นเจ้าของสิทธิ์ในบทริดดิค จากนั้นก็จูงมือผู้กำกับ David Twohy ที่ถือว่าสร้างชื่อมาพร้อมๆ กันจาก Pitch Black มาช่วยกันสานตำนานบทที่ 3 ของชายในความมืดคนนี้
บทบาท “ริดดิค” ของ Vin Diesel กลายเป็นที่จดจำสำหรับคอหนังไปทันทีที่หนัง Pitch Black ออกฉาย เรียกว่าสัตว์ประหลาดดีไซน์เก๋ๆ อย่างค้างคาวฉลามยังดังสู้พี่ริดดิคไม่ได้ ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะบทริดดิคนี่มันน่าสนใจ มีสีสัน เป็นแอนตี้ฮีโร่แบบที่วงการหนังพยายามสร้างกันมานาน
ผมว่าทั้ง Vin Diesel และผู้กำกับ David Twohy คงคาดไม่ถึงว่าตัวละครแอนตี้ฮีโร่นามว่า ริดดิก จะกลายเป็นคาแรคเตอร์ที่คอหนังชื่นชอบจดจำ จนทำให้มีหนังว่าด้วยริดดิกโดยเฉพาะตามออกมาอีก 2 ภาคด้วยกัน
ปกติถ้าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ฟอร์มบิ๊กผมมักจะพยายามร่ายยาวกว่าหนังทั่วไป แต่กับเรื่องนี้สารภาพว่าไม่มีอะไรจะร่ายจริงๆ ครับ
ต้องยกให้เรื่องนี้เป็นหนังสมหวังแห่งปีครับ… สมหวังนี่ไม่ได้แปลว่าชื่นชอบถูกใจอะไรหรอกนะครับ แต่หมายความว่า กะคร่าวๆ ว่าหนังจะออกมาอย่างไร มันก็ออกมาระดับนั้นเป๊ะ ไม่มีผิดคาด
วันนี้หลับตาเปิดหนังสือบันทึกส่วนตัว แล้วจิ้มครับว่าจะเอาหนังเรื่องไหนมาบอกเล่าเก้าสิบห้าดี ก็ได้เรื่องนี้มาเลยเชียว กับตำนานผีดิบแวมไพร์กลางอวกาศ (ชื่ออิตาลีคือ Terrore nello spazio ครับ)