ผลออสการ์ปีที่ผ่านมานั้นผมว่าผมโอเคกับมันนะ คือหนังที่ได้ไปก็ถือว่าควรค่าแก่การได้รางวัล อย่าง Mad Max นี่ก็ถึงเครื่องมากในเรื่องการทุ่มทุนถ่ายทำ ทีมงานต้องใช้แรงกันหนักโคตรๆ จนรู้สึกว่าหนังคู่ควรกับรางวัลเกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ทุกสาขาเลย
ผลออสการ์ปีที่ผ่านมานั้นผมว่าผมโอเคกับมันนะ คือหนังที่ได้ไปก็ถือว่าควรค่าแก่การได้รางวัล อย่าง Mad Max นี่ก็ถึงเครื่องมากในเรื่องการทุ่มทุนถ่ายทำ ทีมงานต้องใช้แรงกันหนักโคตรๆ จนรู้สึกว่าหนังคู่ควรกับรางวัลเกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ทุกสาขาเลย
หนังฝรั่งที่นำเอาตำนานของป่าอาโอกิงาฮาระ หรือป่าฆ่าตัวตายแห่งประเทศญี่ปุ่นมาผูกเป็นเรื่องเป็นราวครับ โดยมีพล็อตผสมดราม่าลงไปนิดๆ แล้วก็เน้นตรงอารมณ์สยองแบบหลอนๆ
เห็นชื่อตอนแรกก็คิดว่ามันคือการรีเมคหรือเปล่า แต่เท่าที่จำได้ก็คือมันยังไม่เคยเป็นโปรเจคท์ที่มีการสร้างกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลย (มีแต่ข่าวลือว่า “จะทำๆ”)
หนังฮาเรื่องนี้ถ้าดูแบบคาดหวังความสมบูรณ์มันก็อาจไม่ตอบโจทย์น่ะนะครับ แต่หากดูแบบไม่คิดมาก ดูเอาเพลิน ผมว่าก็โอเคไม่น้อย อันที่จริงต้องบอกว่าสนุกกว่าที่คิดนิดนึงครับ
ผมดูหนังเรื่องนี้โดยไม่เอาอะไรไปเปรียบไปเทียบกับฉบับดั้งเดิม เพราะหากเปรียบแล้วล่ะก็ ฉบับเดิมทำไว้ขลังมาก แม้จะเป็นการ์ตูนก็ตาม แต่มันผสมระหว่างไซไฟ แฟนตาซี ลึกลับ ทริลเลอร์ และดราม่าที่ถึงรสเหลือหลาย (แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกจริต)
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้นี่ผมนึกถึง Battle Royale ตลอดเลยครับ เพราะพล็อตมันมาแนวเดียวกันเลย ประเภทให้คนไปอยู่รวมในที่เดียวแล้วก็ไล่ฆ่ากันให้ตายให้หมด ทุกคนก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดกันแบบจ้าละหวั่น
นี่คือชอลิ้วเฮียงฉบับปี 2001 ครับ โดยเริ่มเรื่องที่สมัยพี่ชอยังหนุ่มๆ ครับ เขาได้พบกับลี้คิมฮวงและได้รับถ่ายทอดวิชามีดบินเสียวหลี่มาจากลี้คิมฮวงด้วย (เอาเข้าไป)
ปีที่ผ่านมามีหนังว่าด้วยโลกแตกแบบเน้นฮาและบ้าสุดๆ อยู่ 3 เรื่องครับ ได้แก่ This is The End และ Rapture-Palooza 2 เรื่องนี้มาจากฝั่งอเมริกา และอีกเรื่องคือ The World’s End จากฝั่งอังกฤษ
ครับ ภาคแรกธรรมดา ภาคสองดี ภาคสามเจ๋ง งั้นภาคสี่ก็ต้องเป็นเทพล่ะสิ…. ป่าวคับ ไม่ใช่อย่างงั้นอ้ะ
เผอิญผมซื้อมาครบก็เลยเอามานั่งดูต่อๆ กันไปเลยน่ะนะครับ