บอกตรงๆ ว่าพอดูหนังจบ ผมรู้สึกได้เลยว่า “ใจผมมันชำรุด” ครับ เล่นเอานั่งนิ่งที่เก้าอี้ไปพักหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ใช่เพราะหนังไม่ดีนะ จริงๆ ต้องบอกว่ามันดีจนเรารู้สึก Deep และรู้สึก Down ไปกับมันเลยทีเดียว
บอกตรงๆ ว่าพอดูหนังจบ ผมรู้สึกได้เลยว่า “ใจผมมันชำรุด” ครับ เล่นเอานั่งนิ่งที่เก้าอี้ไปพักหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ใช่เพราะหนังไม่ดีนะ จริงๆ ต้องบอกว่ามันดีจนเรารู้สึก Deep และรู้สึก Down ไปกับมันเลยทีเดียว
หนังโรแมนติกเบาสมองดูสบายสไตล์ Hallmark ครับ ^_^
อีกหนึ่งหนังดราม่าที่ Jennifer Aniston ฝากฝีมือการแสดงดีๆ เอาไว้ครับ (จนเธอได้เข้าชิงลูกโลกทองคำในปีนั้น แต่คนที่ได้รางวัลไปคือ Julianne Moore ที่เล่นได้ยอดเยี่ยมกว่าจาก Still Alice) ในบท แคลร์ เบนเนทท์ หญิงสาวที่ต้องทนทรมานจากอดีตและความเจ็บปวดในชีวิตของเธอ
หนังทริลเลอร์ว่าด้วยเจ้าพ่อยาเสพติดวิลเลี่ยม สพิงค์ส (John Savage) สั่งให้ บ็อบบี้ กับ แฟรงค์ (John Corbett และ Jerry O Connell) ไปพาตัวสาวสวยชื่อเซดี้ (Gillian Jacobs) มาให้กับตน พร้อมเสนอข้อตอบแทนให้
รู้สึกว่าระยะหลังๆ นี้ Tobey Maguire มักจะเล่นบทแนวคนเก็บกดอะไรสักอย่าง แล้วก็มีฉากให้แหกปากระเบิดอารมณ์อยู่บ่อยๆ ครับ (เพราะลอง Search ภาพหนังใหม่ๆ ของเขาทีไรต้องมีคนแคปภาพตอนพี่แกแหกปากมาลงทุกที ^_^)
ถ้าถามว่าระยะหลังๆ มานี้ผมจดจ่อติดตามผลงานของผู้กำกับคนไหน ก็ตอบได้เลยว่าคนที่มาเป็นอันดับต้นๆ คือ Nancy Meyers
ที่เขาว่ากันว่า “ความคิดมีผลต่อทิศทางของชีวิตเรา” นั้น ถือว่าจริงไม่ใช่น้อยเลยครับ
อารมณ์ของหนังถือว่าผสมๆ กันระหว่าง The Count of Monte Cristo และ The Lone Ranger ครับ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่สามารถเทียบหนังเหล่านี้ได้เลย
หลังจาก Cell ทำให้ผมเซ็งชีวิตไปพอประมาณแล้ว ก็ขอหาหนังมาฟื้นฟูศรัทธาด้านความสยองตื่นเต้นสักเรื่องน่ะนะครับ แล้วผมก็เลือกเรื่องนี้ครับ เพราะกระแสถือว่าสวยมากทีเดียว
หน้าหนังจริงๆ น่าดูอยู่ไม่น้อยครับ กับการจับเอาเรื่องราวของ เกอร์ทรูด เบลล์ หญิงแกร่งที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ เธอคือหญิงสาวที่เลือกจะใช้ชีวิตเป็นนักสำรวจ จนทำให้เธอกลายเป็นผู้สร้างแผนที่ที่ขีดเส้นพรมแดนระหว่างจอร์แดนและอิรัก