หมวดหมู่: Adventure

Diamonds Are Forever (1971) เพชรพยัคฆราช 007

เมื่อ George Lazenby โบกมืออำลาบทเจมส์ บอนด์ หลังจากแสดงไปได้เพียงภาคเดียว ทำให้ Albert R. Broccoli กับ Harry Saltzman 2 ผู้สร้างหนังชุดนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ Sean Connery กลับมาแสดงเป็นบอนด์อีกสักภาค เพื่อกระชากเรตติ้ง

On Her Majesty’s Secret Service (1969) ยอดพยัคฆ์ราชินี 007

หลังจาก Sean Connery ประกาศเลิกเล่นเป็นสายลับเจมส์ บอนด์ 007 ไป การตามหาบอนด์คนใหม่จึงถือเป็นเรื่องใหญ่สุดๆ ครับ เรียกว่าเป็นข่าวดังที่ไม่มีสำนักข่าวไหนไม่เกาะติดก็ว่าได้

You Only Live Twice (1967) จอมมหากาฬ 007

ใน End Credits ของเจมส์ บอนด์ภาคก่อนได้ขึ้นว่า “บอนด์จะกลับมาในตอน On Her Majesty’s Secret Service” แต่เนื่องจากตามนิยายแล้ว ฉากหลังของตอนดังกล่าวจะต้องอุดมไปด้วยหิมะ เพราะบอนด์ต้องไปผจญภัยบนฐานลับของศัตรูที่มีหิมะปกคลุม อีกทั้งมีการไล่ล่ากันด้วยสกีอีกต่างหาก

Thunderball (1965) ธันเดอร์บอลล์ 007

นี่ถือเป็นบอนด์ตอนที่มีคนดูมากที่สุดตลอดกาลเลยก็ว่าได้นะครับ นับจำนวนแล้วก็ประมาณ 74.8 ล้านคนแน่ะ ก็ถ้าคิดเป็นค่าตั๋วในยุคปัจจุบัน (ปี 2560) หนังก็จะทำเงินไปถึง 664 ล้านเลยทีเดียวล่ะครับ

Goldfinger (1964) จอมมฤตยู 007

ตอนจบของ From Russia with Love (1963) ได้ทิ้งท้ายไว้ว่าเจมส์ บอนด์จะกลับมาในตอน Goldfinger แค่นี้ก็ทำให้แฟนๆ ตั้งตารอคอยเต็มที่ แม้ช่วงแรกของการสร้างจะมีเรื่องให้ทีมงานเหนื่อยกันนิดหน่อยก็ตาม

From Russia with Love (1963) เพชฌฆาต 007

พอ Dr. No ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทำให้ United Artist ตกลงไฟเขียวให้กับภาคต่อของหนังบอนด์ทันที ทั้งยังเพิ่มทุนสร้างให้หลังจากภาคแรกใช้่ไปประมาณ 1 ล้าน มาภาคนี้ก็อัพขึ้นให้เป็น 2 ล้าน เรียกว่าจัดเต็มสุดตัวกันไปเลยทีเดียว

Dr. No (1962) พยัคฆ์ร้าย 007

Dr. No ว่าด้วยการผจญภัยครั้งแรกบนจอใหญ่ของสายลับอังกฤษรหัส 007 (ซึ่งรหัสนำหน้า 00 แสดงว่า มีใบอนุญาตฆ่า) นามว่าเจมส์ บอนด์ (Connery) ที่ถูกส่งไปจาไมก้าเพื่อสืบร่องรอยคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับอังกฤษที่ชื่อสแตรงเวย์ แล้วเงื่อนงำทั้งหลายก็นำพาเขาไปพบกับอาชญากรลึกลับ ด็อกเตอร์โน (Joseph Wiseman) ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งคดีฆาตกรรมและปฏิบัติการร้ายหมายก่อกวนความสงบสุขของโลก

The Great Wall (2016) เดอะ เกรท วอลล์

นี่ถือเป็นหนังที่ตัดต่อตัวอย่างมาได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในความคิดผมเลยครับ… ไม่ได้หมายถึงตัดออกมาดึงดูดหรือน่าดูนะ แต่หมายถึงมันตัดออกมาเรื่อยๆ จนหัวคิดไปว่าหนังคงเรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ เหมือนหนังบู๊เอามันส์อลังการย้อนยุคทั่วๆ ไป

The Dark Tower (2017) หอคอยทมิฬ

ในโลกที่หนังเต็มไปด้วย “การเปิดจักรวาลโน่นนี่” มีอยู่ 2 จักรวาลที่ผมอยากให้มีคนเปิดให้สำเร็จ แต่ก็รู้ว่าเป็นไปได้ยาก เพราะคนที่จะเปิดได้ต้องเทพจริงๆ และมันอาจเป็นจักรวาลที่ไม่ได้ทำเงินระเบิดระเบ้อเหมือนใครเขา