ภาคต่อที่อาจจะไม่ลงตัวกลมกล่อมเท่าภาคแรก (รวมถึงสนุกไม่มากเท่าภาค 3) แต่ก็ยังถือว่าดูเอาเพลินและเอาฮาได้โอเคในระดับหนึ่ง
ภาคต่อที่อาจจะไม่ลงตัวกลมกล่อมเท่าภาคแรก (รวมถึงสนุกไม่มากเท่าภาค 3) แต่ก็ยังถือว่าดูเอาเพลินและเอาฮาได้โอเคในระดับหนึ่ง
หนังดังม้ามืดปี 97 ที่ทำเงินแซงหน้าหนังที่ใครๆ ก็เก็งกันว่าต้องเป็นแชมป์แห่งปีอย่าง The Lost World: Jurassic Park
Armageddon ของพี่ Michael Bay นี่เป็นอีกเรื่องที่หากอยากมันส์เมื่อไร หรืออยากดูอะไรที่มันเร้าๆ และไม่หยุดนิ่ง (เพราะกล้องแกเคลื่อนตลอด) ก็จัดเรื่องนี้ได้เลยครับ
จินตนาการสิครับ หากวันท่องป่าสวยๆ เพื่อการพักผ่อนของคุณหลายเป็นวันที่สัตว์ทั้งหลายพากันคลุ้มคลั่ง… คุณจะทำอย่างไร
วิลลี่ วาฬเพชฌฆาตขวัญใจผู้ชมกลับมาอีกครั้งครับ พร้อมเพื่อนเก่าอย่าง เจสซี่ (Jason James Richter) ที่ในภาคนี้อายุได้ 16 ปีแล้ว และเขาก็ทำงานเป็นทีมวิจัยเกี่ยวกับวาฬเพชฌฆาตร่วมกับแรนดอล์ฟ (August Schellenberg) เพื่อนต่างวัยชาวอินเดียนแดงที่คอยช่วยเหลือเขามาตลอด
การผจญภัยครั้งใหม่ของเจสซี่ (Jason James Richter) หนุ่มน้อยที่มีเพื่อนเป็นวาฬเพชฌฆาตแสนรู้นามว่า วิลลี่
เจสซี่ (Jason James Richter) คือหนุ่มน้อยที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อ ส่วนแม่ก็หนีหายไปโดยไม่ร่ำลา เพื่อนที่เขามีก็เป็นเด็กกวนเมืองที่ก่อเรื่องเป็นประจำ ยังดีที่เขามีนักสังคมสงเคราะห์อย่าง ดไวท์ (Mykelti Williamson) คอยช่วยเหลือและจัดหาครอบครัวให้ โดยเจสซี่ได้ไปอยู่กับเกลน (Michael Madsen) กับ แอนนี่ กรีนวู๊ด (Jayne Atkinson) ที่กำลังอยากได้บุตรบุญธรรมสักคนอยู่พอดี
จิล ยัง (Charlize Theron) สูญเสียแม่ไปตั้งแต่เธอยังเล็กๆ ครับ เช่นเดียวกับ โจ กอริลล่าขนาดยักษ์ที่ต้องเสียแม่ไปเมื่อมันยังเด็กเช่นกัน ทั้งสองเลยอยู่ร่วมกันเหมือนพี่น้องในป่าเขาลำเนาไพร
วันก่อนจัดเรื่อง Pitch Black ต่อด้วย The Chronicles of Riddick แล้วทีนี้อารมณ์มันติดพันครับ อยากดูหนังไซไฟผจญภัยบนต่างดาวอีกสักเรื่อง ก็เลยหันไปคว้า Planet of the Apes ฉบับป๋า Tim Burton มาสนองตัวเองสักรอบ
เมื่อโลกไร้ซึ่งความหวัง “ความเชื่อ” นั่นเองที่มีค่าที่สุด