ในบรรดาค่ายนักสร้างหนังและสร้างการ์ตูนทั้งหลายนี่ในอเมริกานี่ผมยกให้ Pixar เป็นที่หนึ่งแบบเต็มๆ เพราะผลงานเขาทำอย่างตั้งใจไม่ลวกจิ้ม มีสาระดี เทคนิคภาพน่ะหายห่วงครับ สวยงามและก็มีแทรกศิลป์ลงไปด้วย ยิ่งทำมากเรื่องความหมายในภาพก็ยิ่งเพิ่มตามลำดับ
ในบรรดาค่ายนักสร้างหนังและสร้างการ์ตูนทั้งหลายนี่ในอเมริกานี่ผมยกให้ Pixar เป็นที่หนึ่งแบบเต็มๆ เพราะผลงานเขาทำอย่างตั้งใจไม่ลวกจิ้ม มีสาระดี เทคนิคภาพน่ะหายห่วงครับ สวยงามและก็มีแทรกศิลป์ลงไปด้วย ยิ่งทำมากเรื่องความหมายในภาพก็ยิ่งเพิ่มตามลำดับ
เรื่องนี้ดูแบบไม่คาดหวังครับ จริงๆ ไม่รู้อะไรเกียวกับเรื่องนี้เท่าไรด้วย แล้วผลที่ได้ก็คือ ไม่เลวครับ ดูได้เพลินๆ
หลังจากภาคแรกดังแบบเกินคาด (ลงทุน $18 ล้านเหรียญ แต่โกยไปได้กว่า $260 ล้านจากทั่วโลก) โปรเจคท์ภาคต่อเลยถูกดันขึ้นในทันใดครับ
แล้วเรื่องราวก็มาถึงภาค 3 ครับสำหรับหนังคัลท์สายโหดเรื่องนี้ โดยหนนี้ก็ได้ตัวเอกจากภาคแรกกลับมาเป็นตัวนำอีกครั้ง
เวลาเราเดินทางไปที่ไหนสักแห่งนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเรา “อยากไปอยู่ตรงนั้น” ก็อาจจะเป็นเพราะเรา “อยากไปจากตรงนี้”
ผมรู้สึกรักหนังเรื่องนี้ตั้งแต่นาทีแรกๆ เลยครับ ^_^
การ์ตูนที่ทำให้หลายคนอยากดู เพราะตัวอย่างตัดออกมาได้น่ารัก น่ากอด และกวนติ่งพอตัวเลยครับ ครั้นพอได้ดูแล้วก็รู้สึกโอเคครับ ใครชอบการ์ตูนน่ารักๆ เบาสมอง ดูเอาบันเทิงและคลายเครียด ก็น่าจะตอบโจทย์ครับ
ภาคที่ 3 ของ Never Back Down ซึ่งเมื่อพูดถึงหนังชุดนี้แล้วผมว่าสไตล์มันเปลี่ยนไปในแต่ละภาคนะครับ อย่างภาคแรกนี่ออกแนว The Karate Kid แบบผู้ใหญ่ พอมาภาค 2 ก็เป็นส่วนผสมระหว่างหนังภาคแรกกับหนังบู๊ที่มีโลกแห่งการต่อสู้แบบดิบๆ เข้ามาเกี่ยว
ผมดูหนังเรื่องนี้แล้วเกิดความรู้สึกหลายอย่างปนๆ กันครับ อย่างแรกเลยคือ ผมชอบนะ หนังดูเพลินกว่าที่คิด แม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมหรือลงตัวมากมายก็เถอะ
ภาคต่อของหนังว่าด้วยแมงมุมทาแลนทูล่าสายพันธุ์ลาวาครับ ประมาณว่ามันพ่นลาวาออกมาล้างผลาญชาวโลกได้ (อันเป็นที่มาของชื่อว่า ลาวาแลนทูล่า นั่นเอง)