มาครับ มาจัดให้ครบๆ นี่คือไล่ดูให้หมดเซ็ตก่อนดูฉบับปี 2025 เลยนะเนี่ย และการที่ผมมาดูเอาป่านนี้แสดงว่าผมนี่ไม่ได้มีความสนใจที่จะดูซีรี่ส์นี้เลยจริงๆ นะนี่ แต่ที่ดูนี่ก็ถือว่าตามหน้าที่ล่ะครับ

สำหรับฉบับนี้ก็เป็นการเอาเรื่องราวในภาคแรกซึ่งก็มีที่มาจากนิยายเมื่อปี 1973 ของ Lois Duncan มาดัดแปลง โครงเรื่องหลักก็ยังคงเดิมครับ ว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถชนคน แล้วก็ปิดเป็นความลับ ทีนี้พอเวลาผ่านไปพวกเขาก็พบว่ามีใครบางคนที่รู้เรื่องนี้กำลังเล่นสงครามประสาทกับพวกเขา แล้วเล่นไม่เล่นเปล่าแต่ถึงขั้นฆ่าคนด้วย เอ้า ทีนี้ก็ไม่สนุกล่ะครับ คนที่เหลือก็ต้องหาคำตอบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง

ซีรี่ส์นี้มี 8 ตอนครับ เวลาที่ผมใช้ไปในการดูก็หลายชั่วโมงอยู่ แต่บอกเลยว่าดูแล้วเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ คือซีรี่ส์น่ะพยายามดัดแปลงสิ่งที่จริงๆ สามารถเล่าให้จบในหนังเรื่องเดียวได้ แต่ก็ยังอุตส่าห์เอามายืดใส่โน่นเพิ่มนี่ออกมาเป็นซีรี่ส์ 1 ซีซั่น แต่ประเด็นคือมันไม่สนุกน่ะครับ พื้นที่หลักๆ ในเรื่องคือการเล่าชีวิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่จริงๆ ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไร ส่วนเรื่องฆาตกรรมกับปมปริศนาก็ใส่แทรกลงมา ซึ่งก็ไม่ได้น่าสนใจเหมือนกัน

เอาจริงๆ ผมไม่ได้ชอบ I Know ภาคแรกมากมายนักนะครับ แต่พอมาดูฉบับซีรี่ส์นี้แล้วมันรู้สึกบวกกับฉบับหนังมากขึ้นเยอะ เพราะถือว่าเล่าได้กระชับและได้ใจความ ในขณะที่ซีรี่ส์นี่ก็มีการดัดแปลงรายละเอียดแล้วก็เพิ่มส่วนขยายลงมา แต่เหมือนปมมันก็ไม่ได้เด็ด การเล่าเรื่องก็ยังไม่ถึง บางอย่างนี่คือเดาได้ตั้งแต่รู้รายละเอียด เช่นการที่ตัวเอกมีฝาแฝดเงี้ย คือรู้เลยว่าเดี๋ยวเรื่องแฝดนี่มันจะต้องมีมาผล มีหักมุมไม่ตอนใดก็ตอนหนึ่งแน่ ซึ่งตลอดการดูทั้ง 8 ตอนมันก็อารมณ์นั้นน่ะครับ คือเดาได้ ไม่ได้ว้าว ไม่ได้ชวนติดตามอะไร

แล้วยิ่งผมผ่านซีรี่ส์อย่าง Riverdale มาแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่น่ะครับ เพราะอันนั้นมันเล่าได้มันส์และจัดจ้านกว่ากันเยอะ

และที่สำคัญคือตัวละครในเรื่องครับ อย่าง Riverdale นี่ตัวละครดูฉลาดและน่าเอาใจช่วย แต่กับเรื่องนี้ตัวละครทั้งหลายดูแล้วชวนให้หนักใจ ประมาณว่าเหมาะแล้วล่ะครับที่พวกพี่จะต้องมาเจอปัญหาชีวิตแบบที่เจออยู่ ไหนจะการตัดสินใจที่ออกแนว “ทำให้เกิดเรื่องมากกว่าจะเป็นการแก้ปัญหา” ระหว่างการดูซีรี่ส์นี้มันเลยไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละคร แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอยากเอาใจช่วยพวกเขาเลย

ก็เป็นการดูตามหน้าที่ครับ โดยถ้าให้พูดแบบแฟร์ๆ ผมว่ามันก็ไม่ถึงกับแย่น่ะนะครับ พวกงานสร้างงานภาพก็อยู่ในระดับที่ดี แต่บทมันเหมือนไม่มีอะไรจะเล่นน่ะครับ การเล่ามันเลยออกแนวเรื่อยๆ พวกความตื่นเต้นหรือปมต่างๆ ก็ไม่ได้น่าสนใจนัก

แล้วอีกอย่างที่แอบหงุดหงิดเป็นการส่วนตัวคือ “ความมืด” ครับ ไม่รู้ระยะหลังนี่จะอะไรกันนักหนา หนังและซีรี่ส์หลายเรื่องเวลาที่ฉากมันมืด มันก็จะมืดแบบมองไม่เห็นเลยว่าตกลงฉากนั้นเกิดอะไรขึ้น ต่างจากหนังสมัยก่อนที่เวลาเข้าฉากมืดมันก็จะยังพอมีแสงเล็ดรอดมาให้เราเห็นในสิ่งที่คนดูควรได้เห็น หรือไม่ก็จะมีลูกเล่นประเภทมีแสงแว้บๆ ให้เราเห็นเป็นเลาๆ แต่นี่บทจะมืดก็มืดตึ๊บ สารภาพครับว่าแทนที่จะรู้สึกฉงนหรืออยากรู้อยากเห็น มันจะกลายเป็นความหงุดหงิดไป เพราะขนาดเพิ่มแสงให้ทีวีแล้วยังมองไม่เห็นเลยครับ

ไม่แปลกใจครับที่ซีรี่ส์จะถูกแคนเซิลหลังฉายไปปีเดียว ก็มันไม่มีอะไรจริงๆ นี่หน่า – แม้ตอนท้ายดูเหมือนจะพยายามมีอะไรก็เถอะ แต่สุดท้ายมันก็ดูไม่มีอะไรดึงดูดอยู่ดี

ถ้าอยากลองก็ไม่ว่ากันครับ แต่ถ้าให้แนะนำจากใจ ผมว่าเอาเวลา 6 ชั่วโมงกว่าๆ ไปทำอย่างอื่นจะดีกว่าครับ

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)