โคล แรนเดลล์ (Tanner Stine) กลับมาอยู่ที่บ้านของครอบครัวที่ในอดีตนั้นเคยมีการฆาตกรรมมาก่อนครับ แล้วก็นะ โคลกับเพื่อนๆ ก็มาเที่ยวบ้าน ก่อนจะพังเข้าไปยังห้องที่ถูกล็อคไว้ แล้วก็ไปเล่นสนุกกันตามประสา… เล่าแค่นี้คงพอจะเดาได้แล้วน่ะนะครับ ว่าอีแบบนี้ได้ตายกันแหงๆ เลย
ตัวละครในเรื่องนี่แหกกฎมณเฑียรบาลของหนังแนวนี้กระจุยครับ ไม่ว่าจะ “บ้านไหนมีประวัติสยอง จงอย่าเข้าใกล้” พวกพี่ก็ยกขโยงไปกัน – “ประตูบานไหนล็อคไว้ ก็อย่าไปเปิด” พวกพี่ก็เปิดกัน ดังนั้นพอพวกพี่เจอดีกัน ผมก็ไม่รู้จะสงสารยังไงล่ะครับ เพราะตัวละครในเรื่องนี่ออกแนวหาเรื่องใส่ตัวเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะคุณเจ๊มิล่า (Ryan Whitney) ที่ขยันลองดีและขี้วีน หรือเวสติน (Hal Cumpston) ที่กวนบาทาตลอดเรื่อง – อันนี้พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมล่ะเชียร์ให้ผีไปเล่นงานพวกนี้แบบเรียงตัวเลย มันต้องโดนซะมั่ง
หนังลงสูตรครับ แต่พูดตรงๆ คือหนังไม่สนุกเลย ความสยองนี่น้อยครับ พวกบรรยากาศ ความหวาดผวา หรือความหลอนนี่ลืมไปได้เลย อย่างมากก็เป็นภาพมืดๆ น่ะครับ แต่อารมณ์ความหลอนนี่หนังไม่บิ้วเลย หรือบิ้วแล้วแต่ไม่ขึ้นก็ไม่รู้ สำหรับผมนี่นิ่งมาก ไม่น่ากลัว ไม่ตื่นเต้น
แต่หนังยาว 2 ชั่วโมงครับ ตอนแรกก็อยากรู้นะว่าทำไมมันยาว ก็กลายเป็นว่าพื้นที่ในหนังนอกจากจะเป็นส่วนของความสยอง (ที่ไม่สยองเลย) แล้ว ก็จะเป็นภาพชีวิตวัยรุ่นน่ะครับ แต่ส่วนใหญ่มันจะเป็นภาพแบบตัวละครทำท่ากวนประสาทกัน กร่างใส่กัน เกรียนใส่กัน บอกตรงๆ คือรำคาญครับ (จนอยากถามพี่ผีเลยว่าทำไมไม่เก็บพวกนี้ให้เร็วกว่านี้ฟะ)
อีกพาร์ทคือเรื่องส่วนของนายอำเภอสแตนตัน (Justin Long) ที่พยายามไขคดีตอนที่มีวัยรุ่นหายตัวไป จริงๆ พาร์ทนี้ตัดออกไปเลยผมว่าหนังก็ไม่เสียกระบวนครับ เพราะมันไม่ค่อยจะมีผลต่อหนังมากนัก
แล้วบางฉากนี่คือเหมือนเจตนาใส่ลงมาเพื่อยืดเรื่องน่ะครับ อย่างตอนท้ายที่หนังตัดสลับระหว่างพวกตัวเอกที่เผชิญกับผี กับภาพนายอำเภอขับรถไปยังบ้านของตัวเอก คือหนังตัดใส่ลงมาหลอยรอบมากภาพรถนายอำเภอขับไปตามถนนเนี่ย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าจะยืดทำไม จริงๆ ทำออกมายาว 90 นาทีตามมาตรฐานของหนังแนวนี้ก็ได้ มันดูกระชับกว่าด้วย แต่นี่เล่นยืดซะจนงง
ดาราในเรื่องที่พอจะมีชื่อ นอกจาก Long แล้วก็ยังมี Ali Larter ในบทมัวรีน แม่ของโคล ดูแล้วก็ใจหายนะครับ จากแม่สาวแกร่งแห่ง Final Destination มาตอนนี้เป็นแม่คนซะแล้ว – รู้สึกแก่ตามๆ กันไปเลยครับ 555 – แล้วก็ Tony Amendola รายนี้ก็มารับบทบาทหลวงคล้ายๆ กับที่เขาเล่นใน Annabelle และ The Curse of La Llorona ที่มาทำหน้าที่เล่าเหตุการณ์ในอดีตตามสูตร ซึ่งในแง่การแสดงพวกเขาก็ยังโอเคแหละครับ แต่ก็ไม่สามารถช่วยหนังได้
สารภาพว่าแอบงง เพราะคนกำกับคือ Gavin Wiesen ที่เคยทำหนังรอมคอม The Art of Getting By ไว้โอเค แต่มาเรื่องนี้นี่พี่เขาไม่ถนัดแนวนี้หรือไงก็ไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่าหนังไม่สนุกเลยจริงๆ ครับ
สรุปคือ ผ่านไปได้เลยครับผม
ดาวเดียวครับ
(4/10)
หมวดหมู่:Horror, Movie Reviews, Supernatural Horror












