Action

Home Sweet Home: Rebirth (2025) โฮมสวีทโฮม: กำเนิดใหม่

ออกตัวครับว่าไม่เคยเล่นเกม แต่เคยดูเขาแคสเกมใน Youtube ซึ่งก็ทำเอาสะดุ้งโหยงไปพอตัว คือถ้าดูในมือถือนี่คาดว่ามือถืออาจจะบินเอาได้

ส่วนตัวหนังนี่รู้สึกตั้งแต่ดูตัวอย่างครับว่ามันให้อารมณ์เป็นหนังเกรดบีพอสมควร ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็ดีนะที่ทำให้ผมได้เตรียมตัวก่อนว่ากำลังจะดูอะไร ครั้นพอได้ดูแล้ว “สำหรับผม” ผมก็ว่ามันพอดูได้ครับ คือไม่ถึงกับดีหรอก แต่ก็ยังไม่ถึงกับแย่เท่าที่ผมเคยเจอ

อันนี้ต้องชี้แจงคำว่า “สำหรับผม” ก่อนนะครับ คือถ้าท่านที่ตามอ่านรีวิวผมมานานจะทราบว่าผมนั้นดูหนังได้ทุกแนว แต่ที่เหมือนจะดูบ่อยหน่อยคือหนังเกรดบี หนังสัตว์โลกน่ารัก หรือเกรดรองๆ ที่บางท่านก็ยังบอกว่า “มีหนังเรื่องนี้ในโลกด้วยเหรอ?” ดังนั้นผมจึงอยากจะขอบอกครับว่าผมเคยเจอหนังที่ดูแล้วน่าหนักใจกว่าเรื่องนี้มาแล้ว และอาจเพราะผมได้รับการปรับโหมดก่อนดู – เหมือนพอรู้ว่าจะได้ดูหนังเกรดนี้ตัวผมก็เปิดโหมดเกรดบีโดยอัตโนมัติ – ผมเลยพอจะรับหนังเรื่องนี้ได้อยู่

จริงๆ งานสร้างผมว่าก็ไม่แย่นะครับ งาน CG ถือว่าใช้ได้อยู่ หรือพวกฉากต่างๆ ผมว่าก็พอได้ หรือในแง่การแสดงผมก็ไม่ติด ส่วนเนื้อเรื่องก็ออกแนวฮีโร่ผู้ถูกเลือกมาไล่ปราบมารตามสูตรคุ้นเคย ทั้งหมดนี้ผมว่าผมรับได้น่ะ แต่ปัญหาคือหนังมันไม่สนุกเท่าไหร่น่ะครับ การเล่าเรื่องเรื่อยๆ ปมแม้จะมีแต่มันก็ไม่ได้ชวนให้ติดตาม ส่วนความน่ากลัวสยองขวัญนี่ก็แทบไม่ต้องคิดเลย เพราะความน่ากลัวมันไม่ได้เยอะ และจริงๆ หนังมันออกแนวแอ็คชั่นผจญภัยแหวกมิติมากกว่า แต่กระนั้นต่อให้มองเป็นแนวนั้นหนังก็ยังไปไม่ถึงระดับครับ ทั้งในแง่แอ็คชั่นหรือผจญภัยก็ตาม

ระหว่างดูนี่ผมผุดหนังหลายเรื่องขึ้นมาในหัวครับ เพราะหนังมันทำให้นึกถึง อย่างแอนเชียนวันของ Doctor Strange, ยักษ์กินคนจาก Attack on Titan และเกือบตลอดเรื่องผมจะนึกถึง Dragonball Evolution – ส่วนตัวผมว่าเรื่องนี้กับเรื่องนั้นก็พอๆ กันน่ะครับ คืองานสร้างน่ะได้ ตัวบทน่ะก็ลงสูตร แต่ยังเล่าไม่สนุกพอ ยังปรุงได้ไม่เวิร์คพอ

ช่วงต้นผมว่าผมยังพอได้นะ แต่ตอนหลังๆ มันเหมือนไซส์ของเหตุการณ์ในหนังมันค่อยๆ ย่อลงๆ เหมือนตอนแรกเปิดมานี่เรื่องมันใหญ่เลย ระดับสะท้านฟ้าสะท้านเมือง แต่ตอนท้ายตอนเจอบอสใหญ่มันดูขนาดย่อมลงยังไงก็ไม่รู้

พวกความลุ้นความตื่นเต้นก็ไม่มาก และมันเหมือนเป็นสูตรของหนังเรื่องนี้เลยครับว่าสถานการณ์มันชอบไปลงตรงที่ตัวเอกจะโดนจับ โดนบีบคอ โดนจับกดกับพื้น โดยฝ่ายผู้ร้ายจะดูเหนือกว่าในทุกทาง แต่แล้วก็จะมีเหตุให้พระเอกพลิกกลับมาชนะได้ ซึ่งคนทำอาจมองว่ามันลุ้นนะ แต่ผมว่าให้พระเอกสู้ยิบตา สู้ไปเรื่อยๆ ประมาณว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลก็ใช้วิธีอื่น แล้วก็สู้จนชนะ ให้เหตุการณ์มันดูมีความเคลื่อนไหว ผมว่ามันอาจจะดูลุ้นกว่าการที่พระเอกโดนจับกดอยู่แล้วพลิกมาชนะเฉย

ถ้าว่ากันแบบจริงใจ นี่ก็ไม่ใช่หนังที่ผมจะแนะนำให้ทุกท่านดูหรอกครับ 5555 คือเอาเวลาไปดูเรื่องอื่นน่าจะเวิร์คกว่าเยอะ – แต่สำหรับผมผมว่ามันพอได้ตามแนวทางของหนังเกรดบี ซึ่งกับเรื่องนี้นี่ผมโอเคในแง่งานสร้างจริงๆ น่ะครับ มันทำให้นึกถึงหนังเกรดบีสมัยก่อนที่แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้เด็ด แต่งานฉากงานสร้างน่ะได้อยู่ ไม่ได้ดูปลอมจนน่าฮาหรือดู CG เกินเหมือนหนังเกรดรองๆ สมัยใหม่หลายๆ เรื่อง

ดังนั้นถ้าใครที่คอเดียวกับผม คือรับหนังเกรดบีได้ ปรับโหมดให้ดูแบบไม่คิดมากได้ รับได้กับความไม่เนี๊ยบหรือความอ่อนของบท หรือความน่าหงุดหงิดของการตัดสินใจของตัวละครละก็ จะลองดูก็ไม่ว่ากัน – แต่ถ้าไม่แนวหรืออยากใช้เวลาให้คุ้มค่าแบบจริงๆ จังๆ ก็ผ่านไปได้เลยครับผม

ดาวครึ่งครับ

(5/10)