เมื่อคนกลุ่มหนึ่งตื่นขึ้นมาในรถบัสที่ไปตั้งอยู่กลางทะเลทราย และไม่มีใครจำอะไรได้เลย ทุกคนความจำเสื่อมหมด แต่ที่นี่ๆ คือมีอะไรบางอย่างที่อันตรายอยู่บริเวณนั้น ไม่ว่าจะพายุที่สามารถฆ่าคนได้ หรือสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาเขมือบพวกเขา – แล้วก็ตามสูตรครับ ผู้ที่เหลือรอดก็ต้องร่วมกันหาทางรอดไปให้นานที่สุด พร้อมทั้งต้องหาทางไปจากที่นี่ด้วย
ก็เป็นหนังสัตว์ประหลาดที่ผนวกเอาความไซไฟลงไปน่ะนะครับ พูดกันตรงๆ คือหนังอาจจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ผมก็มองว่ามันไม่ได้แย่นะ คืออาจจะมีบ้างที่ตัวละครมาพร้อมพฤติกรรมที่ไม่ฉลาดนัก หรือหนูน้อยหนึ่งเดียวในเรื่องที่อาจจะกรี๊ดระดับเสียงแปดหลอดอยู่บ่อยๆ อันนี้ก็คงขึ้นกับว่าท่านรับได้ไหมน่ะครับ หากพอจะมองข้ามได้หนังก็ถือว่าพอไหว แต่ถ้ารำคาญกับอะไรแบบนี้ หนังก็อาจไม่เหมาะกับท่านครับ
ส่วนผมนั้นรู้สึกกลางๆ ครับ คือดูได้เรื่อยๆ และส่วนหนึ่งอาจเพราะผมดูแบบไม่ได้จดจ่อด้วย ประมาณว่าเปิดเป็นเพื่อนระหว่างทำนั่นทำนี่ จัดโน่นจัดนี่ ช่วงไหนที่มันไม่น่าสนใจหรือมีแววจะรำคาญผมก็หันไปทำอย่างอื่น ครั้นพอถึงช่วงที่โอเคหน่อย เช่น ตอนสู้กับสัตว์ประหลาด หรือตอนที่หนังพยายามจัดสถานการณ์ซึ้งๆ ใส่ลงไป ก็ค่อยหันมาดู ก็พบว่าฉากทำนองนี้ – พวกการเสียสละหรือการกระทำเพื่อปกป้องเด็กน้อย – ก็ทำได้ไม่เลวนะครับ ก็ชวนให้สะเทือนใจอยู่เหมือนกัน
ผมเลยมองว่าหนังก็มีทั้งส่วนที่เวิร์คและไม่เวิร์คผสมกันไปครับ ถ้ามองแบบองค์รวมหนังก็เลยกลางๆ แต่ผมชอบพล็อตนะ มีความเป็นไซไฟ แล้วก็แทรกประเด็นดราม่าลงไปบ้าง จนคิดว่าถ้าหนังทำแบบดีๆ พอดีๆ ไม่เน้นโฉ่งฉ่างมากไป หนังอาจจะดีกว่าที่เป็น – แล้วก็ต้องยอมรับครับว่าการพากย์ของทีมพันธมิตรนั้นมีส่วนให้หนังดูโอเคขึ้นกว่าที่เป็น สำหรับผมนี่ เรื่องทีมพากย์มีผลจริงๆ ครับ มันช่วยชูรสหนังได้เสมอ และบางทีก็มีส่วนตบหนังให้เข้าที่เข้าทางได้
ก็อาจไม่ใช่หนังที่ผมจะแนะนำน่ะนะครับ แต่ถ้าท่านชอบแนวสัตว์ประหลาด แล้วก็ชอบเรื่องไซไฟแบบทะลุมิติหน่อยๆ เรื่องนี้จะลองดูก็ได้ครับ ผมว่าถ้าดูแบบไม่คาดหวังแล้วก็ดูแบบเปิดไว้เป็นเพื่อน ก็อาจจะพอได้ – เพียงแต่ตอนที่เด็กจะกรี๊ดจะร้องนี่ก็อาจต้องคว้ารีโมทกันหน่อยครับ เพราะเสียงจะแหลมและดังขึ้นมาทุกที
ดาวครึ่งครับ
(5/10)











