มาครับ ไล่จัดให้ครบจะได้จบเป็นชุดๆ ไป สำหรับภาคนี้ซึ่งถือเป็นภาคที่ 4 ของ Lake Placid ที่จั่วชื่อไว้ว่าตอนสุดท้าย (The Final Chapter) ซึ่งมาบัดนี้เราก็ตระหนักได้แล้วครับว่ามันไม่เคยเป็นจริงเล้ยยยยย ไม่รู้กี่เรื่องแล้วที่บอกว่า Final Final แล้วมันก็จะมีภาคต่อตามมาประจำ
ภาคนี้เรื่องราวต่อจากภาคก่อนครับ อย่างแรกที่หนังบอกเราเลยคือรีบ้า (Yancy Butler) นักล่าไอ้เข้จากภาคที่แล้วกลายเป็นว่ายังมีชีวิตอยู่ครับ แล้วเธอก็ผันตัวมาทำงานกับนายอำเภอคนใหม่ชื่อเทเรซ่า (Elisabeth Röhm) หน้าที่คือล่าจระเข้ทั้งหลายในแบล็คเลคให้หมดไป ซึ่งตอนนี้แบล็คเลคกลายเป็นเขตห้ามเข้า มีการล้อมรั้วไฟฟ้าไว้เพื่อกันไม่ให้ใครเข้าไปเสี่ยงชีวิต
แต่มันก็ดันเกิดเรื่องครับ เมื่อประตูถูกเปิดไว้ และมีรถบัสทัศนศึกษาตรงเข้าไป งานนี้เหล่าวัยรุ่นก็เลยต้องเผชิญกับไอ้เข้ในแบล็คเลค ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือลูกสาาของนายอำเภอนั่นแหละ
อยากบอกว่าดีใจครับที่ Butler กลับมาอีกครั้ง อย่างที่บอกครับผมว่าเธอสวยและมีเสน่ห์แบบแกร่งๆ แล้วเรายังจะได้เจอกับ Robert Englund พี่เฟรดดี้ ครูเกอร์ต้นตำรับกับบทนักล่าไอ้เข้จิม บิคเกอร์แมนซึ่งพี่ท่านก็เล่นได้ร้ายกาจตามสไตล์นั่นแหละ ส่วนตัวละครอื่นก็ถือว่าผ่านครับ ถือว่าโอเคสำหรับหนังสัตว์โลกน่ารักแบบนี้
หนังยังคง CG ไม่เนียนเหมือนเดิม และหนังก็ไปถ่ายทำที่ประเทศบัลแกเรียเหมือนเดิม แต่ถ้าดูกันที่ตัวหนังแล้วผมว่าภาคนี้เวิร์คกว่า 2 ภาคก่อนนะ – แน่นอนครับว่ามันเวิร์คกว่าภาคแรกไม่ได้หรอก 5555 – หรือไม่ผมก็อาจดูภาค 2 กับ 3 จนดัชนีความคาดหวังมันลดลงติดดินแล้วก็ได้ เลยทำให้ผมรู้สึกโอเคกับภาคนี้มากขึ้น
อย่างน้อยการเล่าเรื่องมันก็เรื่อยๆ ฉากไล่ล่าอาจจะไม่ได้มันส์อะไรมากมาย แต่คงเพราะดาราที่ค่อนข้างเวิร์ค ไม่ว่าจะ Röhm, Butler หรือ Englund ที่ช่วยเสริมรสชาติให้หนังภาคนี้ หรือกระทั่งโคลอี้ (Poppy Lee Friar) ลูกของเทเรซ่า และแม็กซ์ (Benedict Smith) ลูกของไรอัน (Paul Nicholls) ที่ออกแนวบทสมทบ แต่ก็ยังเล่นได้ไม่เลว
หรือไม่ก็อาจเพราะหนังได้ผู้กำกับ Don Michael Paul ที่อาจไม่ใช่ยอดฝีมือนะครับ แต่ในวงการหนังเกรดรองผมว่านายคนนี้ก็ทำหนังได้โอเคอยู่ ผลงานของเขาก็อย่างเช่น Half Past Dead ภาคแรก (พี่ Steven Seagal แสดง) ที่อาจไม่สนุก แต่ก็ยังดูโอเคกว่าหนังของพี่ซีเก้ายุคหลังๆ หรือหนังสารพัดภาคต่ออย่าง Sniper ภาค Legacy และ Ghost Shooter, Tremors ภาค Bloodlines, A Cold Day in Hell และ Shrieker Island กับ The Scorpion King: Book of Souls ซึ่งแต่ละเรื่องผมว่าก็พอได้สำหรับหนังเกรดนี้
โดยรวมนี่ก็ไม่ใช่หนังที่น่าดูนักหรอกครับ แต่เหมาะสำหรับคนที่ตามดูหนังชุดนี้ ผมว่าภาคนี้นี่เวิร์คสุดแล้วในบรรดาหนังภาคต่อของ Lake Placid ซึ่ก็ต้องขอย้ำอีกทีว่ามันเวิร์คเมื่อ “เทียบกับหนังเกรดนี้ และหนังภาคต่อของชุดนี้” แต่ถ้าท่านมีเวลาจำกัดล่ะก็ ดูแค่ภาคแรกพอครับ
ดาวครึ่งครับ
(5/10)
หมวดหมู่:Action, Adventure, Comedy, Horror, Monster Horror, Monster Movies, Movie Reviews, Sci-Fi












