คนกลุ่มหนึ่งโดนจับมาร่วมกันแข่งเกมมรณะ ว่าง่ายๆ คือต้องฆ่ากันจนตายหมดครับ ใครรอดมาคนสุดท้ายก็เป็นผู้ชนะ – ก็ถือเป็นสูตรสำเร็จที่คุ้นเคยอยู่ แล้วก็จะนึกถึง Battle Royale ทุกทียามดูหนังแนวนี้

ถือวาดูเอามันส์ได้ครับ เพลินดีๆ แต่ใครไม่ชอบความรุนแรงก็อาจไม่เหมาะน่ะนะครับ เพราะตลอดทั้งเรื่องนี้อัดกันซัดกันระเบิดกันตลอด แต่ถ้าใครชอบก็น่าจะโอเค เพราะหนังก็ทำได้เดือดและมันส์อยู่ แต่ก็แอบคิดเหมือนกันว่าหนังดูจะยาวไปนิด (เกือบๆ 2 ชั่วโมง) ถ้าซอยอะไรๆ ลงไปหน่อยก็น่าจะลื่นขึ้น

หนังสะท้อนให้เห็นด้านโหดของมนุษย์ ที่เมื่อถึงคราวต้องเอาตัวรอดก็พร้อมจะเข่นฆ่า แต่คนที่ไม่อยากทำ คนที่พยายามทำอะไรที่มันถูกก็ยังพอมีครับ แต่สุดท้ายเพื่อที่จะเป็นผู้อยู่รอดก็ต้องออกแรงป้องกันตัวเหมือนกัน เพราะถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา – ใจหนึ่งก็แอบกลัวนะ กลัวว่าถ้าโลกถูกบีบเค้นจนถึงจุดที่มนุษย์ต้องมาห้ำหั่นกันเองแบบนี้ มันจะน่ากลัวได้ขนาดไหน

แต่อีกใจหนึ่งก็ผุดประโยคนี้ขึ้นมาว่า “มันไม่ได้เป็นแบบนั้นอยู่แล้วเหรอ ในตอนนี้?”

อีกประเด็นก็คือการสะท้อนความโลภของคน อย่างตัวผู้จัดรายการที่ทำเพื่อความสำเร็จและผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่สนว่าใครจะต้องตาย ใครจะต้องสูญเสียบ้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนแบบนี้มีอยู่ในโลกจริงๆ และความวุ่นวายมากมายหลายอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกก็เกิดเพราะคนเหล่านี้ ที่นั่งปลอดภัยอยู่บนหอคอย แล้วคอยเดินหมากนั่นนี่เพื่อให้อะไรๆ เป็นไปตามที่ตนต้องการ แล้วจากนั้นก็นั่งทอดหุ่ยสบายๆ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว

ฉากที่ผู้เกี่ยวข้องในเกมนี้โดนเล่นคืนบ้าง ในแง่หนึ่งมันก็ชวนสลดและสยองอยู่ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็คงเข้ากับคำที่ว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมสนอง”

ก่อนจะดูเรื่องนี้ก็ได้ดูเรื่อง The Tournament ไป แนวทางคล้ายๆ กัน แต่รู้สึกว่าเรื่องนั้นจะมันส์ตอบโจทย์กว่าหน่อย

ใครชอบแนวนี้ก็จัดไปครับ หนังมันก็ได้อยู่

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)