ก่อนดูนี่ผมมองข้ามหนังเรื่องนี้เลยครับ คือคิดว่ามันคงเป็นหนังต๊องๆ ฮาๆ ไม่เน้นสาระแบบที่ดูผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ที่ไหนได้ หนังเพลินเอาเรื่องเลยล่ะครับ

เรื่องของอาฉี (เฉินเสี่ยวหาว, Chin Siu Ho) กับ อาเฉียง (Cheung Kam) 2 โจรกิ๊กก๊อกจอมต้มตุ๋นที่ไปรับลุงเปียว (ตงเปียว, Bill Tung) ออกมาจากคุก แล้วพวกเขาก็ดำเนินการลักเล็กขโมยน้อยไปตามประสา แต่เรื่องมันเริ่มวุ่นวายเมื่อมีผู้ร้ายรายใหญ่ (หวังหลงเหว่ย, Wang Lung Wei) มีแผนจะทำร้ายคนดี พวกโจรกระจอกอย่างพวกเขาเลยโดดมาขวาง ลองทำดีช่วยคนสักครั้ง

สมทบด้วย โหลเมิ่ง (Lo Meng) ในบทผู้กองไท่ลี่ไหว, Tai Bo ในบท ริชาร์ด อันธพาลมาดดีจอมกวน, Liao Li Ling (Liu Lai Ling) เป็นอาจีและ หลี่เอี้ยนซัน (Lai Yin San) เป็นอาหยวน 2 คนนี้คือลูกของลุงเปียวครับ อาจีจะดุๆ หน่อย ส่วนอาหยวนจะเรียบร้อยกว่า, ชาร์ลี เฉา (Charlie Cho) มาเป็นนักพนันเพลย์บอยที่โดนอาฉีแกล้ง และ Yu Mo Lin มารับเชิญเป็นนักร้องในคลับที่ทำเอาแขกอึ้งตะลึงกันทั้งร้าน

หนังมันเอาฮาจริงๆ ครับ และมันไม่เน้นสาระจริงๆ ครับ แต่ประเด็นคือ “มันสนุก” ครับ

หนังลื่นตั้งแต่ฉากแรกๆ เลยครับ ต้องยอมรับว่าเฉินเสี่ยวหาวนี่แกเล่นลื่นนะ บทประเภทกะล่อนพูดไปเรื่อยเลื้อยไปเรื่อยนี่แกคล่องมาก แล้วพอมาจับคู่กับ Cheung Kam มันยิ่งสนุก แล้วไหนจะมีลุงตงเปียวมาอีก ฉากที่พวกเขาเต้นกลางถนนนั่นมันไม่มีประเด็นสาระอะไรเป็นชิ้นเป็นอันก็จริง แต่มันดูครื้นเครงและสนุกสนาน และนั่นล่ะครับคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนังทั้งเรื่อง คือมันเต็มไปด้วยความสนุกสนานไหลลื่นจากเหล่าดาราทั้งหลายที่แต่ละคนก็ลื่นพอกัน

แล้วยังไม่หมดครับ ของดีอีกอย่างคือฉากบู๊ เรียกว่าหนังโชว์สตันท์กันแบบจัดเต็ม แต่ละฉากที่ตัวละครตีกันนี่มันจะไม่ได้มีแค่คนต่อยกันเตะกันแล้วจบ แต่มันอุดมไปด้วยการโชว์ของครับ ประเภทกระโดดข้ามโน่นข้ามนี่, โดดยันกำแพงแล้วตีลังกา, โดนเตะตัวลอย แล้วก็ลอยไปเข้าถังน้ำ นี่แค่ส่วนหนึ่งนะครับ คือบอกได้เลยว่าอันนี้เกินคาด เพราะฉากโชว์บู๊เหล่านี้มันทำออกมาได้ใจจริงๆ

แน่นอนว่าตัวหนังมันไม่ได้สมบูรณ์แบบหรือครบเครื่องไปเสียทั้งหมดครับ อย่างการเดินเรื่องก็อาจมีกระท่อนกระแท่นบ้าง หรือพล็อตดูโดดไปโดดมาบ้าง หนังเลยยังไม่ถึงระดับสุดๆ แบบเต็มๆ แต่ก็อย่างที่บอกครับ หนังมีของดีเป็นอย่างๆ ไป คือมีดาราดีและคิวบู๊โชว์สตันท์เด็ดๆ ยิ่งช่วงท้ายนี่บู๊กันสะใจกันไปข้างหนึ่งเลย จนผมกล้าพูดเลยครับว่าถ้าใครไม่คิดมากเรื่องเนื้อหา และอยากเสพคิวบู๊ เสพฉากสตันท์มันส์ๆ นะ เรื่องนี้ผมอยากให้ท่านลองเลยครับ เพราะท่านน่าจะบันเทิงกับหนังได้แบบไม่ยากเย็นเลยล่ะ

อีกหนึ่งของดีที่ผมชอบคือดนตรีครับ จังหวะครื้นเครงดีมากๆ ฝีมือของ Shing Chin Yung และ Su Chen Hou ครับ ซึ่งเพลงธีมนี่จะถูกนำมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งก็เข้ากับอารมณ์ขันของหนังนะ โดยเฉพาะตอนท้ายที่ตีกันตอนไคลแม็กซ์นี่ ดนตรีสนุกๆ ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับฉากบู๊ในเรื่องได้อย่างพอดีครับ

สรุปว่าสนุกครับ ค่อนข้างถูกใจผม คือถ้าเนื้อเรื่องมันแน่นอีกนิดก็คงแจ๋วไปเลย แต่เท่าที่เป็นนี่มันก็เพลินมากพอจนผมอยากเอามาดูซ้ำอีกเมื่อมีโอกาส

สองดาวกว่าๆ บวกๆ ครับ

(6.5/10)