แจ็ค โรบิโดซ์ (Jean-Claude Van Damme) ตำรวจแผนกฆาตกรรมจากนิวออร์ลีนส์ที่ย้ายมาเป็นตำรวจตระเวนชายแดนเมืองโคลัมบัส และที่นั่นกำลังมีสงครามระหว่างแก๊งค์ครับ มีเจ้าพ่อที่หวังรวบอำนาจอย่างเบนจามิน เมเยอร์ส (Stephen Lord) แจ็คเลยต้องลงสนามไปโซ้ยกับมัน
แม้จะเป็นหนังช่วงที่ Van Damme พ้นยุครุ่งเรืองไปแล้ว แต่ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ ใช้ได้อยู่ มันอาจไม่ได้เจ๋งมากหรือสนุกจัดๆ เท่าหนังยุค 90 ของเขา แต่ก็นับว่าน่าพอใจ ดูเพลิน มีความน่าติดตามในระดับหนึ่ง ซึ่งอย่างแรกที่ต้องขอบคุณเลยก็คือดนตรีของ Mark Sayfritz ที่ถือว่าเข้าท่า สามารถเสริมอารมณ์มันส์ๆ กลิ่นอายเม็กซิกันให้หนังได้เยอะทีเดียว
อย่างต่อมาก็คือ Van Damme ที่ถือว่าเล่นดีได้ระดับ ในเรื่องจะมีซีนอารมณ์ด้วยซึ่งเขาก็ทำได้โอเคอยู่ บวกด้วยบทของ Joe Gayton (Bulletproof) และ Cade Courtley ที่บอกได้เลยว่าไม่ไก่กา ตัวเอกมีปมมีปูมหลัง ส่วนตัวละครอื่นๆ แม้จะไม่ได้มีการลงประวัติอะไรมาก แต่ก็วาดคาแรคเตอร์ของแต่ละคนออกมาได้แบบชัดอยู่ และการกำกับของ Isaac Florentine ที่ถือว่าโอเคครับ เล่าเรื่องได้ลื่นพอตัว สำหรับผมถือว่าไม่น่าเบื่อนะ
และหนังแนวนี้ต้องมาพร้อมฉากคลาสสิคครับ นั่นคือแจ็คจะต้องไปกินอาหารในร้านประจำเมือง แล้วก็จะเจอกับพวกเจ้าถิ่นกวนโอ๊ยมาหาเรื่อง แล้วพี่ท่านก็จะสำแดงวิทยายุทธจนคนอึ้งกันไปทั้งร้าน ก็ลงสูตรเป๊ะครับ 555
ไฮไลท์ของหนังนี่ต้องยกให้การปะทะกันระหว่าง Van Damme และ Scott Adkins ถือว่าสู้กันได้เดือดและมันส์เอาเรื่อง ซึ่งผมดีใจนะ เพราะหนังปูประเด็นนี้มาตลอด ให้เราได้เห็นลีลาบู๊ของ Van Damme เห็นลีลาของ Atkins แล้วก็ให้เราคิดไปว่าเดี๋ยว 2 คนนี้มาเจอกันต้องมันส์แน่ แล้วมันก็ออกมามันส์จริงๆ – ที่ผมรู้สึกชอบเยอะกับอันนี้เพราะมีหนังหลายเรื่องแล้วครับที่ปูแบบนี้เอาไว้ แต่พอถึงเวลาจริงฉากสู้ดันไม่มันส์ – พอเจอที่ทำถึงแบบนี้ก็เลยชอบครับ แต่ละคนก็จระเข้ฟาดหางใส่กัน มันส์ดี
อีกอย่างที่รู้สึกว่าหนังทำได้โอเคกว่าที่คิด คือการเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์มาเป็นเงื่อนไขให้เราสะเทือนใจ อย่างเหล่าบาทหลวงกับแม่ชีที่โดนจับเป็นตัวประกันตอนกลางเรื่อง การที่เห็นพวกเขาต้องมาฝ่าดงกระสุนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายก็ทำให้เราอดสะเทือนใจไม่ได้เหมือนกัน – ไม่ใช่ทุกเรื่องที่พอมีฉากแบบนี้แล้วจะทำให้สะเทือนได้น่ะนะครับ
ผมชอบตอนจบนะครับ หนังจบลงด้วยอารมณ์ประมาณว่า การมายังเมืองโคลัมบัสของแจ็คครั้งนี้ เป็นเหมือน Journey หนึ่ง เป็นการเดินทางหนึ่งของแจ็คที่ทำให้เขาได้กอบรวมตัวตนที่แหลกสลายของเขากลับมาอีกครั้ง ตอนเริ่มเริ่มด้วยการเดินทางเข้าเมือง ตอนจบก็จบด้วยการเดินทางออกจากเมือง กลับไปยังที่ที่เขาจากมา… ผมรู้สึกว่ามันมีความหมายดีครับ
สรุปว่านี่อาจไม่ใช่หนังดีเลิศของ Van Damme แต่ก็ไม่ใช่หนังแย่แน่นอนครับ จริงๆ คือถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางดีของเขาเลยล่ะ
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, Crime, Martial Arts, Movie Reviews, Thriller












