Action

John Carter (2012) นักรบสงครามข้ามจักรวาล

ถือเป็นหนังที่น่าเห็นใจเรื่องหนึ่งเลยครับ เพราะทุนสร้างระดับ $250 ล้าน แต่ทำเงินทั่วโลกได้เพียง $284 ล้าน (ในอเมริกาได้ไปแค่ $73 ล้านเท่านั้น) ขาดทุนเต็มประตู ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็เข้าใจได้ล่ะครับ เพราะหน้าหนังมันไม่ได้แปลกแหวกอะไร มันคือสูตรคุ้นเคยที่ว่าด้วยตัวเอกจากดินแดนอื่น ไปกอบกู้สวัสดิภาพของอีกดินแดนหนึ่ง – เรียกว่าเห็นกันมาเยอะแล้ว

แต่ขณะเดียวกันถ้าดูจากตัวหนัง แม้ของจะไม่ใหม่ แต่ตัวหนังเองก็ถือว่าทำได้โอเคในแนวทางของมันครับ ช่วงต้นอาจเรื่อยๆ หน่อย แต่พอหนังเซ็ตอะไรๆ ในโลกของหนังได้ครบแล้ว หนังก็ถือว่ามีความสนุกและมันส์อยู่เหมือนกันในช่วงหลังๆ

ผมว่าอย่างหนึ่งที่หนังพลาดคือชื่อเรื่องครับ จริงๆ ชื่อเดิมอย่าง John Carter of Mars น่ะมันดูมีกึ๋น ได้กลิ่นไซไฟ และน่าสนใจอยู่ในตัว แต่นี่พอตัดด้วนเหลือ John Carter ภาพลักษณ์ของหนังมันเลยดูธรรมดาลง

ดารานำอย่าง Taylor Kitsch ส่วนตัวแล้วมองว่าเขาอาจยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด และการถ่ายทอดบทนี้ของเขาอาจยังไม่ถึงขั้นเจ๋ง แต่ผมว่าก็โอเคน่ะ อย่างน้อยพอเรื่องดำเนินถึงตอนสุดท้าย ตอนที่เขาพยายามจะ “กลับบ้าน” ผมก็รู้สึกอินนะ รู้สึกมีอารมณ์ร่วมอยากเอาใจช่วยให้เขาได้กลับไปยังบ้านของเขาได้จริงๆ

หนังกำกับโดย Andrew Stanton แห่ง Finding Nemo และ Wall-E ซึ่งเขาก็เสียรังวัดจากหนังเรื่องนี้ไปพอสมควรครับ คือในแง่หนังน่ะผมว่าได้อยู่ แต่ในแง่รายได้ก็อย่างที่บอกไปว่าล่มหนักมาก จนระยะหลังๆ เขาไปกำกับซีรี่ส์แทน ส่วนตัวก็เห็นใจเขาเหมือนกัน เพราะหนังเรื่องนี้จริงๆ ก็อยู่ในข่ายดีนั่นแหละ

… บอกตรงๆ ว่าผมก็ไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะนะครับ คือถ้าถามว่าชอบหนังมากมายไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น แต่กระนั้นมันก็รู้สึกน่ะครับว่าหนังทำได้โอเคในแนวทางของมัน ตอนต้นทนความเซื่องนิดหน่อย พอถึงครึ่งหลังก็สนุกขึ้น ดูจบแล้วก็ค่อนข้างพอใจ แต่กระนั้นลึกๆ ก็รู้สึกว่า หนังยังมันส์ได้อีก หวือหวาได้อีก ดีได้อีก สนุกได้อีก – ประมาณ Avatar น่ะครับ จริงๆ มาทางเดียวกัน แต่เรื่องนั้นจะจัดเต็มกว่า

และผมว่าบท จอห์น คาร์เตอร์ ก็ยังสามารถมีเสน่ห์ได้อีก ประมาณว่ามีอารมณ์ขันอีกสักหน่อยหรือได้แสดงไหวพริบความเฉลียวฉลาดอีกสักนิดก็น่าจะดี และอีกอย่างคือผมว่าในเรื่องกว่าพี่แกจะได้แสดงความเก่งมันก็ปาไปตอนท้ายแล้วน่ะครับ ช่วงต้นพี่แกดูจะโดนจับโดนข่มเยอะอยู่ แสงในตัวพี่แกเลยไม่ค่อยฉายเท่าไร

ผมดูหนังเรื่องนี้ 2 รอบครับ รอบแรกผมว่าก็สนุกดี พอมาดูรอบ 2 เพื่อเอามาเขียนนี่ ผมว่าก็ยังสนุกน่ะครับ แต่ความชอบอาจเบาลงจากการดูรอบแรก และเริ่มรู้สึกว่ามันยังสนุกได้อีก ก็เป็นไปได้ว่าผมคงไม่ดูรอบ 3 อีกล่ะครับ แต่คิดถึงหนังผจญภัยประเภทฉากหลังเป็นทรายนี่ผมกลับอยากดู Prince of Persia: The Sands of Time อีกแฮะ นี่ก็จัดไปหลายรอบแต่ก็ยังชอบอยู่ รู้สึกมันครบเครื่องและมันส์กว่าน่ะครับ

แต่กระนั้นก็อยากให้ลองนะครับ เผื่อท่านจะชอบ ผมว่าเหมาะกับคอหนังผจญภัยผสมไซไฟประเภทตัวเอกไปช่วยดาวดวงอื่นให้พ้นภัยน่ะครับ – นึกถึงโดราเอมอนตอนพิเศษขึ้นมาเลยแฮะ 5555

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)