Horror

Ash (2025) แอช ดาวมฤตยู

หญิงสาวคนหนึ่ง (Eiza González) ตื่นขึ้นมากลางสถานอวกาศโดยจำอะไรไม่ได้เลย แล้วเธอก็พบว่ามีคนตายเต็มไปหมด เธอเลยต้องมาปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะพบความจริงอันน่าสะพรึง

อย่างแรกที่ผมชอบเลยคืองานภาพครับ พวกภาพแสงสีบนฟากฟ้าของดาวนี่มันดูสวยดี ส่วนพล็อตก็แสนคุ้นเคยครับ อันว่าพล็อตแบบนี้จะทำออกมาสนุกไหมก็ขึ้นอยู่กับคนทำซึ่งเรื่องนี้กำกับโดย Flying Lotus ที่มาร่วมแสดงในเรื่องด้วย (รับบทเป็น เดวิส) ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าความสนุกไม่เยอะเท่าไรครับ หนังยาวประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่หนึ่งชั่วโมงแรกหนังค่อนข้างช้าไปหน่อย แม้จะมีการทิ้งปมระหว่างทางบ้างแต่มันกลับไมค่อยน่าสนใจ หรือการเฉลยปมแบบทีละน้อยมันก็ไม่ค่อยมีพลัง เลยทำให้ชั่วโมงแรกของหนังนี่ผมต้องใช้ความอดทนในการดูไปเยอะเหมือนกัน

หนังเริ่มเข้าท่าตอน 30 นาทีสุดท้ายครับ ซึ่งก็เป็นตอนที่อะไรๆ ได้รับการเฉลย ก็ถือว่าทำได้ระทึกอยู่บ้าง จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหนังทำออกมาเป็นตอนสั้นๆ แบบซีรี่ส์ The Twilight Zone ยาวสักแค่ 40 กว่านาทีมันอาจโอเคกว่านี้ก็ได้

โดยรวมคือหนังก็ไม่แย่ครับ แค่ชั่วโมงแรกมันไม่มีลูกเล่นหรืออะไรที่น่าสนใจนัก จนผมก็มีสัปหงกเหมือนกัน เพราะการเดินเรื่องมันช้า เหมือนไม่รู้จะเล่าอะไรดี ประมาณว่าจะเล่าเผยปมมากก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะไม่เหลืออะไรให้เล่าในตอนท้าย เลยอาศัยลูกยืด พยายามยืดชั่วโมงแรกให้นานที่สุด

อย่างฉากที่ริยาได้ยินเสียงอะไรสักอย่างแล้วต้องเดินไปดูเงี้ย ภาพก็จะเริ่มที่ตัวเอกได้ยินอะไรสักอย่าง ทำหน้าประหลาดใจนิดหน่อย ก่อนจะค่อยๆ เดินไป เดินไป เดินไป เดินไป จนถึงที่หมาย – ฉากทำนองนี้นี่ก็กินเวลาไป 1 – 2 นาทีแล้วครับ และช่วงแรกๆ หนังก็ใช้มุกนี้บ่อยจนอดไม่ได้ที่ผมจะเงกระหว่างดู

ก็ลองดูได้นะครับ จริงๆ เทคนิคในการดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกก็คือ เราก็นั่งดูไป ตอนไหนที่รู้สึกว่ายืดก็กรอไปครับ กรอเดินหน้าไปเรื่อยๆ พอถึงฉากที่มันเริ่มมีรายละเอียดให้เก็บก็ค่อยหยุด แล้วทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึง 30 นาทีสุดท้าย ผมว่าหนังจะดูออกรสและโอเคมากขึ้น

ดาวครึ่งครับ

(5/10)

ขอสปอยล์หน่อยนะครับ

แต่ก็มีสิ่งที่ชอบเหมือนกันนะครับ ผมชอบที่ “เจ้าสิ่งนั้น” เติบโตแทรกซึมในเครื่องจักรได้ ผมว่าเข้าท่าดี และทำให้รู้สึกว่าเจ้าสิ่งนี้ค่อนๆ คืบคลานเข้ามา โอบล้อมพวกเขาทีละน้อยแบบไม่รู้ตัว – ภาพตอนมันยุ่บยั่บเต็มช่องว่างของเครื่องจักรนี่ผมว่าใช้ได้เลยนะ เสียดายที่เล่นกับประเด็นนี้ไม่เยอะเท่าไร