Action

Redemption (2013) คนโคตรระห่ำ

Jason Statham รับบทโจอี้ อดีตทหารมือพระกาฬที่บอบช้ำจากสงคราม ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในลอนดอนและกำลังพยายามกอบรวมตัวตนที่แตกสลาย เขาได้รู้จกกับซิสเตอร์คริสติน่า (Agata Buzek) แม่ชีในงามที่คอยแจกอาหารให้กับผู้ยากไร้ และเมื่ออิซาเบล (Victoria Bewick) เพื่อนของเขาหายตัวไป เขาก็เลยพยายามสืบหาความจริง

ใครคาดหวังจะได้เห็นพี่ Jason แกออกหมัดซัดมวยแบบมันส์ๆ ล่ะก็ บอกเลยครับว่าไม่ใช่เรื่องนี้ เพราะหนังมันออกแนวดราม่าเป็นหลัก มีฉากต่อสู้แค่ไม่กี่ฉาก แล้วก็ไม่ได้ถูกปรุงให้ออกมามันส์แบบพวก The Transporter ด้วย ดังนั้นใครคาดหมายความมันส์ก็ต้องปรับใจก่อนดูนะครับ

สำหรับผม ผมโอเคกับหนังนะ มันอาจไม่ได้สนุกอะไรมาก แต่ผมชอบตรงที่มันสะท้อนสังคมโลกได้ดีพอสมควร และผมว่าพี่ Jason แกก็ได้โอกาสแสดงบทในเชิงดราม่าซึ่งพึ่เขาก็ทำได้ดีอยู่นะครับ คือดูแล้วเชื่อว่าพี่เขาอยู่ในโหมดกำลังสับสนในชีวิต แล้วก็พยายามจะทำอะไรสักอย่างที่มันถูกต้องไม่ว่าจะต่อตัวเองหรือต่อคนรอบตัว ว่าง่ายๆ คือพี่แกพยายามตั้งศูนย์ตัวเองใหม่นั่นแหละครับ – ซึ่งมันก็ไม่ใช่ของง่ายเลยจริงๆ

ผมชอบที่หนังสะท้อนสังคมแบบตรงๆ อย่างการที่โจอี้ไปทำงานกับพวกมาเฟียจีนซึ่งแน่นอนว่ามันคืองานสีเทา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่างานแบบนี้เงินดีไหลเข้ามือง่าย แล้วจากนั้นเขาก็เอาเงินที่ได้มานี่แหละไปซื้ออาหารชุดใหญ่ให้คนยากไร้ข้างถนนได้มีอะไรดีๆ กิน – ในทางกลับกันถ้าโจอี้ยังทำงานเป็นเพียงคนครัวอยู่ในร้านอาหารจีน (ซึ่งจริงๆ คืองานสุจริต) แบบที่เขาทำตอนแรกๆ เขาจะได้เงินมาสักกี่มากน้อย? และกว่าจะมีเงินพอแจกจ่ายให้คนอื่นน่ะ ต้องรออีกนานเท่าไร?

ในแง่ความสนุก หนังอาจไม่ได้ตอบโจทย์ความบันเทิงให้เราสักเท่าไร แต่ผมชอบตรงการฉายให้เห็นโลกที่มันมีสี ขาว-ดำ-เทา (และสีอื่นๆ) ไหลวนปนเปกันไป ตัวละครโจอี้ของพี่ Jason ก็ไม่ใช่พระเอกจ๋า ไม่ใช่คนดีที่โลกรอ แม้บางสิ่งที่เชาทำจะเพื่อความถูกต้อง แต่หลายอย่างที่เขาทำมันก็ผิดกฎหมายหรือสร้างความเจ็บปวดเดือดร้อนให้คนอื่นเหมือนกัน – หรือบางอย่างเห็นอยู่ว่ามันไม่ถูก แต่ก็ทำเป็นมองผ่านไป ก็มี…

คงเพราะแบบนี้โลกมนุษย์ถึงต้องมีกฎ กติกา มารยาท ธรรมเนียม ค่านิยม บรรทัดฐาน หลักคิด หลักธรรม ฯลฯ มาเป็นกรอบหรือเป็นทางให้มนุษย์เดิน เพราะถ้าคนเราพากันเดินเองแบบตามแต่ใจและไร้ขื่อแป โลกนี้จะมีรูปโฉมเป็นเช่นไร?

อีกคนที่ถือว่าเล่นได้ดีคือ Buzek ที่ดูน่าเชื่อในบทนี้ทั้งตอนเป็นแม่ชีและตอนแต่งตัวเป็นคนธรรมดา – ที่สำคัญคือเธอดูน่ารักจนเชื่อได้ไม่ยากว่าโจอี้ต้องชอบเธอแน่ๆ และเรายังจะได้เห็น Benedict Wong แห่ง Doctor Strange มาเป็นมิสเตอร์ชอย มาเฟียจีนนายของโจอี้ บทพี่ท่านอาจไม่มาก แต่ก็น่าจดจำอยู่

หนังเขียนบทและกำกับโดย Steven Knight ที่ในเวลาต่อมาทำหนังมันส์ๆ อย่าง Locke (ที่ Tom Hardy ขับรถแล้วเล้นคนเดียวทั้งเรื่องน่ะครับ) ส่วนเรื่องนี้ในแง่ความสนุกอาจไม่เยอะ แต่ในแง่เนื้อหาถือว่าน่าสนใจ

แถมท้ายเกร็ดเล็กๆ ว่าตอนแรก Knight อยากได้ Cillian Murphy มาแสดงนำ ถ้าเป็นแบบนั้นหนังก็คงมีโทนอีกแบบหนึ่งไปเลย – และหนังเรื่องนี้ยังมีอีกชื่อว่า Hummingbird ครับ

ส่วนตัวผมคิดอยู่ลึกๆ ว่าหนังบางเรื่องจะทำให้เราเห็นโลกได้ชัดขึ้น หากตั้งใจดูมันดีๆ – และผมจัดให้เรื่องนี้อยู่ในข่ายนั้นครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)