Action

G20 (2025)

ถ้าท่านชอบหนังแนว Die Hard ประเภทผู้ก่อการร้ายบุกยึดอะไรสักอย่างแล้วตัวเอกก็สั่งลุยโซ้ยแหลกจัดการพวกมันล่ะก็ จัดเรื่องนี้ได้เลยครับ

หนังอาจไม่ได้สุดยอด แต่ผมชอบนะ ดูเพลินดี สนุกใช้ได้ แม้ระหว่างทางจะมีจุดให้เอ๊ะหรือมีอะไรขัดใจบ้างก็เถอะ แต่พอดูๆ ไปเดี๋ยวมันก็ลื่นเอง หรือเพราะผมไม่คาดหวังมากมายเลยจอยกับมันได้ง่ายๆ ก็ไม่รู้ แต่ผมว่ามันเพลินดีครับ และกะจะจัดซ้ำแน่ๆ หากมีโอกาส

ตัวเอกในเรื่องคือท่านประธานาธิบดีแดเนียล ซัตตัน (Viola Davis) ซึ่งเคยเป็นทหารเก่าเลยมีฝีมือในการซัดกับผู้ร้าย ส่วนตัวร้ายก็คือ เอ็ดเวิร์ด รัทเลจ (Antony Starr) ส่วนเป้าหมายของพี่แกคืออะไรก็ต้องลองไปดูครับ บอกได้แค่ Starr นี่แกเล่นบทร้ายขึ้น ยิ่งบทร้ายแบบจองหองอวดดีและฟังแต่ความคิดของตัวเองนี่ต้องยกให้แกเลยครับ แกเล่นถึงเสมอ

ช่วงต้นก็ตามสูตรครับ ปูพื้นกันไป หนังก็เรื่อยๆ กันไป ยังไม่อะไรมาก หรือพอถึงตอนผู้ร้ายก่อการยึดสถานที่ก็ยังถือว่าเรื่อยๆ สำหรับผมเนี่ยหนังมันเริ่มมาสนุกตอนที่ท่าน ปธน. ออกโรงลุยน่ะครับ ตอนนั้นค่อยเริ่มมันส์ แล้วความมันส์ก็ไหลมาเรื่อยๆ ไปจนจบ ซึ่งผมจะไม่บอกว่ามันมันส์โคตรนะ เพราะมันก็ยังไม่มันส์ถึงขนาดนั้น แต่มันดูสนุกครับ มีแอ็คชั่น มีระเบิด มีอะไรให้มันส์ มีอะไรให้ลุ้น คือถ้าท่านชอบหนังแนวนี้ ผมว่ามันตอบโจทย์ได้เข้าท่าอยู่

หนังกำกับโดย Patricia Riggen แห่ง The 33 ครับ ซึ่งก็ถือว่าคุมหนังได้ดีประมาณหนึ่ง มีการเกลี่ยเล่าทั้งในส่วนดราม่าและแอ็คชั่นในระดับที่เข้าท่าอยู่ อย่างฉากที่แดเนี่ยลเล่าเรื่องเกี่ยวกับภาพถ่ายบนปกนิตยสารอันโด่งดังของเธอนั้น ฉากนั้นดูก็รู้ครับว่ามีเพื่อให้ Davis ได้ปล่อยของ ซึ่งเธอก็ปล่อยของได้โอเคเสมออยู่แล้วกับบทแสดงอารมณ์แบบนี้

และตัวละครอื่นๆ ก็มีโมเมนต์ของตัวเองครับ ไม่ว่าจะเดเรค (Anthony Anderson) สามีของ ท่าน ปธน., แมนนี่ (Ramón Rodríguez) ตำรวจลับข้างกายท่าน ปธน. เรื่องนี้พี่แกเด่นเอาเรื่องครับ เรียกว่าถ้าไม่มีเขาล่ะท่าน ปธน. คงรอดยาก, เซเรน่า (Marsai Martin) ลูกสาวตัวแสบของท่าน ปธน. และที่ลืมไม่ได้คือท่านผู้หญิงแห่งเกาหลี (MeeWha Alana Lee) ที่ขโมยซีนได้ในหลายวาระเลยครับ

ผมชอบฉากตอนที่แดเนียลเล็งปืนจะยิงคนร้ายเป็นรายแรก แต่เธอกลับบอกให้มันวางอาวุธแทนที่จะยิงใส่ให้สิ้นฤทธิ์ ทีนี้เลยเกิดผลร้ายตามมา ที่ชอบเพราะถ้ามองในแง่ของบทแล้ว หนังคงใส่ฉากนี้มาเพื่อให้เราเห็นว่าแดเนียลซึ่งเป็นผู้นำประเทศพยายามใช้วิธีเบาๆ แล้ว – ประมาณว่าให้ท่านยัดกระสุนใส่หัวผู้ร้ายเลย ก็จะดูโหดไป – แต่เผอิญสถานการณ์มันไม่ใช่ และผู้ร้ายก็ร้ายจริง ผลลัพธ์เลยไม่เป็นอย่างที่คิด แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ท่านก็ไม่รอช้าที่จะยิงในครั้งต่อๆ ไป

นึกถึงคำคมจากหนัง The Man in the Iron Mask ที่ออร์โธส (John Malkovich) พูดว่า “บางปัญหาใช้ดาบแก้ไม่ได้ แต่บางปัญหา ไม่ใช้ดาบก็ไม่ได้”

อีกประโยคที่ชอบคือตอนที่ท่านรอง ปธน. (Clark Gregg) พูดตอนเห็นคลิปที่ผู้ร้ายสร้างโดย Deepfake ว่า “ในโลกที่ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนทรงพลังกว่าข้อมูลจริง นี่คือหลักฐานที่น่ากลัวมาก” นี่ก็สะท้อนความจริงที่เราควรหันมาตรวจสอบและระมัดระวังเหมือนกัน

และยอมรับว่าตอนแรกก็แอบขัดใจนะที่ Anthony Anderson มาแสดงเป็นสามีท่าน ปธน. เพราะจำภาพพี่เขาได้จากบทตลกมากกว่า จนนึกภาพไม่ออกเลยว่าจะมาเล่นบทแบบนี้ได้ไหมเนี่ย แต่พี่เขาก็โอเคนะครับ อย่างน้อยคือดูแล้วเชื่อว่าพี่เขาห่วงลูกห่วงเมียจริงๆ – บทจริงจังพี่เขาก็เล่นได้

สำหรับผม เรื่องนี้ดูเอามันส์ได้ครับ อาจไม่ถึงระดับ Die Hard, Speed, The Rock หรือ Air Force One แต่ผมว่าเอาไปเข้าชุดกับ Sudden Death (Jean-Claude Van Damme) หรือ Final Score (Dave Bautista) ได้เลยครับ

หรือหากเทียบกับหนังแนว “ยึดทำเนียบ” หนังก็อาจยังไม่ถึงขั้น Olympus Has Fallen แต่ผมก็เพลินพอๆ กับ White House Down และผมออกจะชอบมากกว่า London Has Fallen กับ Angel Has Fallen อีกนะ – นี่คือพยายามบรรยายให้เห็นภาพสุดๆ เลยน่ะนะครับ 555

แต่ก็นั่นแหละครับ ดูเองง่ายสุด จะได้รู้ว่าชอบไหม – เอาเป็นว่าถ้าชอบแนวนี้ ลองดูครับ ผมว่าไม่น่าจะผิดหวังนะ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)